ไฮไลต์สำคัญ เป็นแมตช์ที่กำลังจะได้ล้างแค้นกลุ่มเยือนที่เคยทำแสบเอาไว้เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา

ไฮไลต์สำคัญ สำหรับแมตช์นี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังคงขาดหน้าแข้งสำคัญอย่าง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่อยู่ในตอนเรียกความฟิต แล้วก็คงจะกลับมาลงเล่นได้ในแมตช์สำคัญที่จะดวลกับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ในอาทิตย์หน้า เหมือนกันกับ ฟาบินโญ่ ที่พึ่งจะสูญเสียคุณพ่อ อาจจะทำให้ภาวะจิตใจยังไม่พร้อมที่จะลงสนาม

แมตช์นี้น่าจะเป็นแรงผลักดันอย่างยอดเยี่ยม สำหรับหน้าแข้ง “เร้ดส์” เนื่องจากว่าพวกเขาเคยโดน เบิร์นลี่ย์ บุกมายัดเยียดความแพ้พ่ายในบ้านกับการเล่นเกมลีกทีแรก หยุดสถิติไม่มีพ่ายแพ้ในแอนฟิลด์เอาไว้ที่ 68 เกม ด้วยเหตุดังกล่าวนี่นับว่าเป็นโอกาสงามยามดีที่กำลังจะได้ล้างแค้น “คลาเร็ตส์” ไฮไลต์สำคัญ ซึ่งๆหน้าแฟนบอลของพวกเขา

ไฮไลต์สำคัญ

จากในกรณีที่ โจ โกเมซ ยังคงไม่ฟิตเต็มเปี่ยมนั่นทำให้ คล็อพ มีตัวเลือกกองหลังตัวกลาง ที่จะมายืนคู่กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ก็คือ โฌแอล มาติป, อิบราฮิม่า โกนาเต้, แนท ฟิลลิปส์ รวมทั้ง รีส วิลเลี่ยมส์ ซึ่งดูเหมือนกับว่าเปอร์เซนต์ผู้ที่จะได้พอดีจริงซึ่งก็คือ มาติป

ผลงานของ มาติป ด้ามจับคู่กับ ฟาน ไดค์ นับว่าเด่นมากๆในแมตช์เปิดฤดูกาลที่ไล่ตี “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” นอริช สิตี้ ทำให้ นายใหญ่ชาวเยอรมัน คงจะวางใจเขาให้ลงปฏิบัติหน้าที่เป็นหัวใจในแดนกลางอีกแมตช์

ในตอนที่ โกนาเต้ ยังคงจำเป็นต้องรอโอกาสของเขาถัดไป เนื่องจากนักเตะดูเหมือนยังจำเป็นต้องใช้เวลาอีกครู่หนึ่ง ผลักดันบอลโลก

สำหรับการปรับพฤติกรรมให้กับเกมลูกหนังในลีกเมืองผู้ดีที่ย้ำการใช้พลังและร่างกายเป็นส่วนมาก ส่วน วิลเลี่ยมส์ กับ ฟิลลิปส์ นับว่าเป็นยางอะไหล่ชั้นยอดในยามฉุกเฉินเพียงแค่นั้น

ในขณะที่ โกเมซ ดูราวกับว่าทางในการคืนสนามของเขายังคงจะต้องใช้เวลาอีกนาน หากแม้เกมปัจจุบันจะมีชื่อเป็นตัวสำรอง แต่ว่านักฟุตบอลก็พึ่งพลาดลงฝึกหัดร่วมกับกลุ่มในตอนต้นอาทิตย์นี้ แม้กระนั้นถึงแม้เจ้าตัวจะสามารถกลับมาฝึกซ้อมกับทีมได้ในอีกไม่กี่วัน แต่ว่ามั่นใจว่า คล็อปป์ อาจจะยังไม่เสี่ยงที่จะใช้งานเขาไปอีกครู่หนึ่ง

เวลาสำหรับ คอสตาส ซิมิคาส สำหรับการสร้างผลงานให้ติดใจ คล็อพ เริ่มเหลือลดลงแล้ว ภายหลังที่มีกล่าวว่าขณะนี้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เริ่มกลับมาเรียกความฟิตได้แล้ว แล้วก็มีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะฟิตบริบูรณ์ในแมตช์เจอ เชลซี อาทิตย์หน้า

ด้วยประการฉะนี้ ซิมิคาส จำเป็นมากที่จะจำต้องรีดฟอร์มเก่งของเขาออกมาให้ได้ เนื่องจากว่าในแมตช์ที่ชนะ นอริช ซิตี้ แม้นักเตะจะส่งผลงานที่น่าประทับใจในเกมรุก แม้กระนั้นเกมรับยังมีปัญหาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสมาธิสำหรับในการเล่น

ฟูลแบ็กกลุ่มชาติกรีซ ทำบอลเสียเปล่าครั้งรอบๆหน้าประตูจนถึงทำให้ “หงส์แดง” โดนทำประตู ซึ่งจุดนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้นกับ โรเบิร์ตสัน เพราะฉะนั้นนี่ก็เลยเป็นสิ่งที่จำเป็นมากมายๆที่ ซิมิคาส จะต้องรีบแก้ไข ถ้าหากยังอยากได้ลงเล่นตัวจริงถัดไป

สำหรับในกรณีของ “ร็อบโบ้” จำต้องบอกว่าร่างกายช่างเข้มแข็งอย่างมาก หลังได้รับบาดเจ็บที่เอ็นข้อเท้าในเกมปรีฤดูกาลโดยเขาใช้เวลาเพียงแค่ 12 วันในการพักฟื้นร่างกายก็สามารถกลับมาลงฝึกฝนร่วมกับสหายร่วมทีมเมื่อวันศุกร์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา กีฬา เพนท์บอล

จะต้องกล่าวว่าเป็นเลิศในข่าวดีของทีม เนื่องจากว่าก่อนหน้านั้น นอร์แบร์ท เห็นด้วยว่า แบ็กซ้ายชาวสกอตติช บางทีอาจจะกลับมาลงในสนามให้กลุ่มได้ก่อนหลังพักเบรกกลุ่มชาติ แต่งานนี้นักฟุตบอลสามารถเรียกความฟิตได้เร็ว แล้วก็มีลุ้นช่วยกลุ่มในเกม “บิ๊กแมตช์” ปะทะ เชลซี

จำเป็นต้องกล่าวว่าช่างเป็นข่าวโศกสลดอย่างมากที่ ฟาบินโญ่ สูญเสียพ่อบังเกิดเกล้า

และก็แน่ๆว่า นอร์แบร์ท อาจจะไม่ให้นักเตะลงไปในสนาม เพราะว่าต้องการให้เขาได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวเพื่อแก้ไขความเจ็บปวดสำหรับเพื่อการสูญเสียบุคคลอันเป็นสุดที่รัก นั่นนับได้ว่าแดนกึ่งกลางของ “ลิเวอร์พูล” จะขาดผู้เล่นโฮลดิ้งกองกลางที่มีความหมายกับเกมอย่างยิ่ง แต่ว่ายังดีที่พวกเขาจะได้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ ติอาโก้ อัลกันตาร่า กลับมาช่วยกลุ่มอีกรอบ ภายหลังที่ทั้งคู่คนสามารถลงฝึกซ้อมได้อย่างมากกับทีมชุดใหญ่

ในแมตช์เปิดฤดูกาลที่ไล่ต้อน นอริช ไปแบบสบายๆเฮนเดอร์สัน กับ จอมบุกชาวสแปนิช มิได้มีส่วนกับเกมนั้นเลย แต่ว่าสำหรับในตอนนี้เรื่องภาวะความฟิตของ “กัปตันเฮนโด้” และก็ ติอาโก้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว แต่งานนี้ก็จะต้องขึ้นกับการเลือกของ “บอส” ว่าจะใช้คนไหนลงในสนาม

เนื่องจากเอาเข้าจริงๆในดินแดนกลาง นาบี เกอิต้า นับว่าทำผลงานได้สะดุดตาในเกมกับ นอริช รวมทั้งสามารถทำหน้าที่ชดเชย จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดิม ได้เป็นอย่างดี เหมือนกับ อเล็กซ์ อ็อดซ์เลด-เชมเบอร์เลน ด้วยเหตุผลดังกล่าว คล็อพ จำต้องตกลงใจระหว่าง เฮนเดอร์สัน กับ ติอาโก้ ว่าใครจะได้ลงเล่นตัวจริง

ถ้าหากจะดร็อปป์ เกอิต้า หรือ เชมเบอร์เลน ก็นับว่าไม่ใช่เรื่อง เนื่องมาจากทั้งคู่คนกำลังทำผลงานได้ดี และไม่มีเหตุมีผลที่จะจำต้องตัดชื่อพวกเขาจากกลุ่มตัวจริงๆด้วยเหตุนั้นก็ขึ้นกับ คล็อปป์ ว่าอยากสไตล์ดุเดือดมีความเป็นผู้แบบเฮนเดอร์สัน หรืออยากได้กองกลางเชิงสูง มีจินตนาการในการปั้นเกมอย่าง ติอาโก้ ลงเล่นในแมตช์นี้

ไฮไลต์สำคัญ

หนึ่งในเรื่องที่น่าสนใจมากมายๆในเกมนี้ก็คือจังหวะของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่จะทำสถิติเทียบเคียงชั้น เธียร์รี่ อองรี ตำนานแนวรุกชาวฝรั่งเศสของ อาร์เซน่อล

ถ้าเขาสามารถซัด 2 ประตูในเกมปะทะ เบิร์นลี่ย์ สตาร์ลูกหนังชาวอียิปต์ พึ่งสร้างตำนานในการทำสถิติเป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่ทำแต้มในเกมเปิดฤดูได้ 5 ฤดูกาลต่อเนื่องกัน

ข้างหลังตะบัน 1 ประตูในสอย นอริช ซิตี้ นัดหมายเปิดฤดูกาลเมื่ออาทิตย์ก่อน เวลาที่เกมเปิดรังแอนฟิลด์ “บังโม” ยังมีลุ้นเดินหน้าสร้างสถิติอีกรอบ

เนื่องจากแม้เขาสามารถซัดได้ขั้นต่ำสองตุงในแมตช์นี้ จะมีผลให้เจ้าตัวเปลี่ยนเป็นนักฟุตบอลที่ยิงใน พรีเมียร์ลีก ครบ 100 ลูกได้เร็วสุดเป็นชั้น 4 ที่ปริมาณ 160 เกม พอๆกับ อองรี ในทันที https://www.judodairago.com/

ตอน 2-3 ฤดูกาลก่อนหน้าที่ผ่านมา ซาลาห์ มักโดนตั้งแง่ว่าหวงบอลไม่ค่อยให้เพื่อนพ้อง เพราะเหตุว่า อยากสร้างสถิติส่วนตัว แม้กระนั้นจากฟอร์มในเกมนัดหมายเปิดฤดูกาลจะมองเห็นได้ว่า “บังโม” เล่นเป็นทีมมากขึ้น

รวมทั้งพร้อมส่งบอลให้สหายร่วมกลุ่มถ้าได้โอกาสดียิ่งกว่า ซึ่งเกมนั้นเขาทำ 2 แอสซิสต์ด้วย ด้วยเหตุนี้สาวก “ค็อป” คงจะสุขใจได้ว่า ซาลาห์ คงจะไม่บ้าจี้มองดูเรื่องสถิติส่วนตัวจนกระทั่งทำให้เกมรุกของกลุ่มเสียสมดุล