เชื่อถือมาตลอด ลุค ชอว์ ฟูลแบ็กกลุ่มชาติอังกฤษของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เชื่อถือมาตลอด เปิดเผยความเกี่ยวข้องของเขากับ โชเซ่ มูรินโญ่ ยุคที่ทั้งคู่คนร่วมงานกันกับกองทัพ “ปีศาจแดง” โดยเวลานี้เจ้าตัวปรับปรุงฝีเท้าจนกระทั่งเป็นตัวบุกปีกซ้ายตัวหลักของกลุ่ม ในขณะที่ “เฮียมู” จะต้องระเห็จออกมาจากสมาคมไปคุม สเปอร์ส ลุค ชอว์ ตัวบุกปีกซ้าย

ฟอร์มแรงของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สมาพันธ์ดังที่ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดใจเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องของตนเองกับ โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมชาวโปรตุกีสสมัยที่ “เฮียมู” จับบังเหียนยอดกลุ่มที่ถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ฟูลแบ็กกลุ่มชาติอังกฤษเคยโดน มูรินโญ่ วิภาควิจารณ์อย่างมาก

ในตอนที่เขาคุม “ผีแดง” 2 ปีครึ่ง และก็เขาแทบหมดอนาคตในสมัยที่ ผู้จัดการทีมฟุตบอลเลือดฝอยทอง อยู่กับกลุ่ม ตราบจนกระทั่งเมื่อ โอเล่ กุนท้องนาร์ โซลชา เข้ามาจับบังเหียน ชอว์ ก็ปรับปรุงฝีเท้าจนบัดนี้เปลี่ยนเป็นตัวบุกปีกซ้ายเบอร์ 1 ของกลุ่มไปแล้ว จอมบุกวัย 25 ปีทำสถิติ

5 แอสซิสต์กับการเล่น 26 เกมในช่วงฤดูกาลนี้ เปิดใจว่า “ผมเชื่อมั่นในตัวเองเสมอ มีบางทีที่อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีบางบุคคลรู้สึกว่า -บางเวลานายคงจะย้ายกลุ่ม- แม้กระนั้นผมเชื่อถือมาตลอดว่าวันนึงผมจะสู้เพื่อกลับมาอยู่ในกลุ่มให้ได้ แล้วก็แสดงให้ผู้คนได้มีความเห็น เพนท์บอล

ว่าผมมีคุณภาพแค่ไหน ผมมีความคิดว่าในตอนนี้มันเริ่มแล้ว แต่ว่ายังมีอะไรอีกมากมายที่จะตามมา ผมยังชายหนุ่ม รวมทั้งมีเวลาปรับปรุงอีกเยอะแยะ” ส่วนในกรณีที่ มูรินโญ่ เคยวิภาควิจารณ์ฟอร์มการเล่นของเขานั้น ชอว์ กล่าวถัดไปว่า “มันเกิดเรื่องยากลำเค็ญ เนื่องจากว่าผมไม่ชอบใจ

ผลงานของตน มีผู้คนจำนวนมากที่ให้การสนับสนุนผมตรงนี้ ด้วยเหตุผลดังกล่าวผมทราบว่าผมจะกลับมาได้ แต่ว่าผมจำต้องรับรองสู้ถัดไป และไม่จำเป็นต้องกล่าวอะไรเยอะแยะ หลายท่านบอกในทางลบเกี่ยวกับตัวผม แต่ว่าผมมองดูย้อนกลับไปแล้วมันก็ราวกับการเล่าเรียน

เผยความในใจ

เชื่อถือมาตลอด โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เหมาคนเดียวสองประตูให้ ลิเวอร์พูล

มีเพิ่มเป็น 40 คะแนนแซง เลสเตอร์ ขึ้นชั้น 3 ตามหลังรองหัวหน้าฝูง แมนฯยูไนเต็ด เพียงแต่แต้มเดียว แล้วก็ตามจ่าฝูง “เรือใบสีฟ้า” 4 คะแนนถึงแม้แข่งมากกว่าหนึ่งเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วีกที่ 21 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา เป็นการเจอะกันระหว่าง เวสต์แฮม ชั้น 5

เปิดบ้านจัดแจงแชมป์เก่า ลิเวอร์พูล ซึ่งรั้งชั้น 4 คู่นี้เจอกันเมื่อสิ้นเดือนตุลาคมปีให้หลัง ซึ่งเป็น “หงส์แดง” เฉือนเอาชนะไปได้ 2-1 ส่วนฟอร์มเดี๋ยวนี้ของทั้งคู่เมื่อตอนกลางวีกก่อนหน้านี้นั้น “ขุนค้อน” ยังร้ายแรงบุกไปตบ คริสตัล พาเลซ 3-2 เช่นเดียวกับ ลิเวอร์พูล ที่คืนฟอร์มเก่งบุกไปอัด

สเปอร์ส 3-1 เดวิด มอยส์ นายใหญ่ของ เวสต์แฮม ยังคงใช้ขุมกำลังชุดเดิมเป็นแกนหลักมิคาอิล อันโตนิโอ ยืนหน้าเป้า จาร์ร็อด โบเว่น, ซาเหนื่อย เบนราห์ม่า และก็เหวี่ยงโบล ฟอร์นาลส์ ผลักดันอยู่ข้างหลัง ตอนที่ เจสซี่ ลินการ์ด แข้งใหม่ที่ยืมมาจาก แมนฯยูไนเต็ด ไม่มีชื่อ ดูบอลสด

ในเกมวันนี้ ด้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ ปรับกองทัพโรเตชั่นผู้เล่นโดยเฉพาะแนวรุกขาด ซาดิโอ มาเน่ ที่เจ็บ ตอนที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เป็นสำรอง โดยมอบโอกาส ดิว็อค โอริกี้ พอดิบพอดีจริงร่วมกับ เซอร์ดาน ชากิรี่ และก็โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวซัลโวของลีก ครึ่งแรก เริ่มมาได้เพียง 6 นาทีแรก

ลิเวอร์พูล ได้โอกาสทักก่อนเลยด้านหลัง เซอร์ดาน ชากิรี่ แทงทะลุช่องให้ ดิว็อค โอริกี้ หลุดเข้าไปซัดมุมแคบแต่บอลโด่งหลุดกรอบออกไป อีกสองนาทีถัดมา ไวจ์นัลดุม ทดสอบซัดนอกกรอบดูบ้างถึงแม้บอลก็โบยบินคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้น นาที 26 “ขุนค้อน” แทบจะได้ลุ้นขึ้นนำไปหลัง

หรือก่อนแอรอน เครสส์เวลล์ หักเข้าตรงกลางมาให้ ปาโบล ฟอร์นัลส์ ซัดไม่ถึง 15 หลาบอลพุ่งไปลื่นไถลไม่ลเนอร์ก่อนจะโดน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ชนสกัดก่อนเข้าประตูเฉียดฉิว

ดูบอลสด

ซาลาห์ พักบอลก่อนคืนหลังให้ ชากิรี่

วิ่งมาซัดในกรอบแม้กระนั้นบอลยังโดน เคร็ก ดอว์สัน พุ่งมาบล็อคลื่นไถลออกด้านหลัง นาที 45 ว่าขานอาโก้ ผ่านบอลตัดแนวรับขุนค้อนให้ ดิว็อค โอริกี้ โฉบมาสไลด์บอลก่อนถึง ฟาเบีนนสกี้ ถึงแม้บอลหลุดเสาแรกแบบได้เสียว อีกนาทีต่อมาในช่วงทดเวลาเจ็บ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ได้โอกาส

ซัดเข้ากรอบเป็นหนแรกของเกม แต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือ ฟาเบียนสกี้ รับเข้าซองไว้ได้ จบครึ่งแรก ยังทำอะไรกันไม่ได้ เวสต์แฮม เสมอกับ ลิเวอร์พูล 0-0 กลับมาเล่นต่อในพักหลัง “หงส์แดง” เริ่มมีโอกาสมากขึ้น นาที 54 ได้จากจังหวะ ชากิรี่ หยอดเข้าไปในกรอบให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์

พุ่งชนแม้กระนั้นบอลไปตรงตัวฟาเบียนสกี้ นาที 56 โอริกี้ ทำเสียบอลก่อน “ขุนค้อน” สวนกลับอย่างรวดเร็วบอลขึ้นมาทาง จาร็อด โบเล่น เชือดเข้าตรงกลางให้ มิคาอิล อันโตนิโอ ซัดผ่านมิลเนอร์ถากเสาออกไปอย่างโชคไม่ดี นาที 57 พบร์เก้น คล็อปป์ สลับตัวคนแรกถอดเอา เผยความในใจ

เจมส์ มิลเนอร์ ออก แล้วส่ง เคอร์ติส โจนส์ ลงเล่นแทน และเพียงแต่ไม่ถึงนาทีที่ โจนส์ อยู่ในสนามก็ทำแอสซิสต์ได้ในทันทีทันใดด้านหลัง ไหลให้ ซาลาห์ ด้านขวาก่อนแต่งบอลเข้าซ้ายแล้วปั่นหนีมือ ฟาเบียนสกี้ ทิ่มแทงตาข่ายเข้าไปให้ ลิเวอร์พูล บุกมาขึ้นนำเจ้าถิ่น 1-0 และเป็นประตูที่ 14 ในลีกนำดาวซัลโวต่อไป