ลุ้นการเป็นแชมป์ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ทำเป็นเพียงแต่บุกไปเสมอเชลซี แบบไม่มีสกอร์ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์เกมพรีเมียร์ลีก

ลุ้นการเป็นแชมป์ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ทำเป็นเพียงแต่บุกไปเสมอเชลซี แบบไม่มีสกอร์ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เกมพรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 เดือนกุมภาพันธ์ก่อนหน้านี้ นำมาซึ่งการทำให้ช่องทางสำหรับในการลุ้นแชมป์ลีกยุคแรกในรอบกว่า 8 ปีของพวกเขาเริ่มไกลห่างไปเรื่อย

สำหรับแมตช์นี้ทั้งคู่กลุ่มเล่นในสไตล์รัดกุม และไม่ค่อยได้โอกาสสำหรับในการสร้างความหวาดเสียวเท่าไรนัก แม้กระนั้นก็มีใจความสำคัญให้กล่าวถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวะแฮนด์บอล และก็ผู้ตัดสินจัดแจงเช็ค “วีเออาร์” แล้ว ไม่ยอมรับที่จะให้จุดลูกโทษกับ “ผีแดง”

ผลเสมอในแมตช์นี้จัดว่าเสียหายกับทั้งยังกับ “เร้ด เดวิลส์” แล้วก็ “สิงโตน้ำเงินคราม” โดยข้างแรกพวกเขาโดน “เรือใบสีฟ้า” ทำสกอร์ทิ้งห่างไปไกลมากเพิ่มขึ้น ในขณะที่ฝ่ายหลังอดแซง เวสต์หมูแฮม ยูไนเต็ดยึดชั้นท็อปโฟร์

กลุ่มใหญ่ของแสลงที่แมนยูกินไม่ลง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมีสถิติ ที่สวยงามดูดี อย่างยิ่งสำหรับเพื่อการเล่นเกมเยี่ยม โดยพวกเขาไม่แพ้ 19 เกมลีกต่อเนื่องกัน (นับฤดูกาลก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาด้วย) โดยในช่วงฤดูกาลนี้ผลงานการออกไปเล่นนอกบ้านยังสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น แม้กระนั้นในเวลาเดียวกัน 3 แมตช์หลังสุดก็ได้แต่ว่าเสมอเช่นเดียวกัน

สิ่งที่น่าดึงดูดอีกประเด็นก็คือการเจอกับกลุ่มใหญ่ พวกเขาไม่สามารถที่จะเอาชนะได้เลยสำหรับเพื่อการเจอกับ อาร์เซน่อล (เสมอ 0-0 แพ้ 0-1) , เชลซี (เสมอ 0-0 ทั้งคู่เกม) , ลิเวอร์พูล (เสมอ 0-0) ,แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เสมอ 0-0) ส่วนในเกมกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ยิงได้ 1 ประตูแต่ว่าแพ้ยัง 1-6

โดยถ้าหากมองดูในทางบวก “ผีแดง” มีความแน่นแฟ้นสำหรับในการเจอกับกลุ่มใหญ่ แม้กระนั้นแม้มองดูอีกมุม พวกเขาไม่มีความสามารถเมื่อพบกลุ่มที่อดทนกว่า อันที่จริงแล้วการเสมอกับกลุ่มใหญ่กลุ่มนี้ จะไม่เสียหายเลย ถ้าพวกเขาสามารถเก็บแต้มจากกลุ่มเล็กได้ แม้กระนั้นเมื่อมองผลงานของกลุ่ม

สำหรับการเจอกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เอฟเวอร์ตัน พวกเขาทำเป็นเพียงแค่เสมอ และแพ้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดทำให้กลุ่มทำคะแนนหลุดมือไปมากพอควร ฉะนั้นการพลาด 3 คะแนนจากกลุ่มใหญ่จริงเปลี่ยนเป็นเรื่องเสื่อมเสียโดยทันที ที่น่าวิตกก็คือในตอนสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้

แมนฯ ยูฯ มีคิวจำต้องไปเยี่ยม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รวมทั้งด้วยสถิติสำหรับในการพบกลุ่มใหญ่ที่ไม่ค่อยดีนัก แถม “เรือใบสีฟ้า” อยู่ในตอนขาขึ้น งานนี้ถ้าหาก โซลชา ไม่อาจจะกระตุ้นผู้ร่วมทีมให้งัดฟอร์มเก่งออกมาได้ เพียงแค่ผลเสมอบางครั้งอาจจะไม่มีให้มองเห็นก็ได้ บรูโน่เงียบ,โควาซิช โดดเด่น

ลุ้นการเป็นแชมป์ หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ แมนฯยูไนเต็ด ไม่สามารถที่จะเจาะตาข่าย เชลซี ในเกมนี้ได้ โน่นก็เนื่องจากว่า บรูโน่ แฟร์นันด์ส ไม่ได้อยู่ในฟอร์มเก่งราวกับที่ผ่านๆมา โดยเขาไม่อาจจะสร้างจังหวะให้กับเพื่อนพ้องร่วมกลุ่มได้เลยในแมตช์นี้ นี่เป็นอีกแมตช์ที่ ผู้นำกองทัพกลุ่มชาติประเทศโปรตุเกส

เล่นไม่ออกเมื่อพบกับกลุ่มใหญ่ โดนแดนกึ่งกลางของ เชลซี ไล่บี้ไม่หยุดทำให้เขาไม่ว่างสำหรับการปั้นเกมมากเท่าไรนัก และก็เมื่อ บรูโน่ สร้างจังหวะไม่ได้ นำมาซึ่งการทำให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ เมสัน กรีนวู้ด เกือบจะไม่มีช่องทางได้บีบคั้นแนวรับของเจ้าของบ้านมากสักเท่าไรนัก

ในระหว่างที่แดนกลางของ เชลซี จำต้องบอกเลยว่า มัตเตโอ โควาสิช เล่นได้อย่างสะดุดตาโดยเขาเป็นหัวใจในแผงกองกลาง “สิงโตน้ำเงินคราม” อย่างแท้จริง อีกทั้งรอเกมบอล และก็ยังเปิดเกมเร็วสำหรับเพื่อการเล่นเกมรุก ที่สำคัญยังรอเรียกบอลจากเพื่อนพ้องร่วมกลุ่มตลอดระยะเวลา

กองกลางกลุ่มชาติโครเอเชีย ปฏิบัติภารกิจในเกมยอมรับได้บรรเจิด และก็ปกป้องไม่ให้แมนฯ ยูไนเต็ดได้เล่นจังหวะสวนกลับ ช่วงเวลาเดียวกันเขายังช่วยเพิ่มเกมบุกได้หลายที

ลุ้นการเป็นแชมป์ รวมทั้งได้โอกาสได้ขึ้นไปยิงไกลทำให้ ดาบิด เด เคอา จำเป็นต้องออกแรงเซฟ โดยเหตุนั้นจำเป็นต้องบอกเลยว่า โควาซิช ปฏิบัติภารกิจได้ครบถ้วนบริบูรณ์จริงๆ เพนท์บอล

ลุ้นการเป็นแชมป์

การทำให้ช่องทางสำหรับในการลุ้นแชมป์ลีก ยุคแรกในรอบกว่า8ปี

ลุ้นการเป็นแชมป์ ก็องเต้ ช่วยเซฟจังหวะสำคัญเชลซี เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ได้โอกาสได้ยืนเป็นคู่คิดแผงมิดฟิลด์กับ โควาซิช โดยงานนี้ ทูเคิ่ล ตกลงใจมอบโอกาส จอมบุกชาวประเทศฝรั่งเศส ลงสู่สนามมากยิ่งกว่าที่จะให้ จอร์จินโญ่ แต่ว่าดูเหมือนกับว่าในครึ่งแรก ก็องเต้ เล่นแย่มากๆครอบครองบอลไม่ดี แล้วก็ปฏิบัติภารกิจเกมรับน่าผิดหวัง

แม้กระนั้นในช่วงหลัง ก็องเต้ มีการปรับปรุงฟอร์มการเล่นได้อย่างดียิ่ง โดยเขาติดต่อประสานงานกับ โควาซิช ได้อย่างดียิ่ง ทำให้แผงกองกลางของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ไม่สามารถที่จะประดิษฐ์จังหวะสำหรับการเล่นเกมบุกได้มากนัก ดูบอลสด

นอกจากนั้น กองกลางแชมป์โลก ยังช่วยเซฟจังหวะสำคัญให้กับกลุ่มได้หลายคราวในช่วงหลัง โดยยิ่งไปกว่านั้นจังหวะการสวนกลับเร็วของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดโดยเขาสามารถวิ่งมาดักเก็บบอลรอบๆหน้ากรอบจุดโทษได้อย่างเฉียดฉิว

แน่ๆกล่าวถึงฟอร์มที่สะดุดตาในแมตช์นี้ คงจะทำให้ นายใหญ่ชาวเยอรมัน รู้สึกติดใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากการมี ก็องเต้ อยู่ในกลุ่มช่วยทำให้กลุ่มสามารถเล่นได้แน่ๆมากขึ้นเรื่อยๆ

วีเออาร์จุดใจความสำคัญร้อน แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ขึ้นชื่อว่าเป็นเลิศในกลุ่มที่ชอบได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีช่วยวินิจฉัยหลายแมตช์ โดยเกมนี้ดูอย่างกับว่าพวกเขาจะได้ของขวัญกล่องโตจาก “วีเออาร์” อีกรอบ แต่งานนี้ สจ๊วร์ต แอตเวลล์ ผู้ตัดสินไม่บ้าจี้ไปด้วย

เรื่องราวดังที่กล่าวมาแล้วเกิดขึ้นในนาทีที่ 16 แอตเวลล์ เป่าหยุดเกมชั่วครั้งชั่วคราวข้างหลังมีสัญญาณจากห้อง วีเออาร์ ถึงความน่าจะเป็นไปได้ที่ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย หน้าแข้งของเจ้าถิ่นจะทำแฮนด์บอลในจุดโทษ แต่ว่าภายหลังที่ท่านเปาวิ่งไปดูหน้าจอข้างสนามก็รับรองไม่เป็นจุดลูกโทษอะไร

ภายหลังจบมีการแสดงทรรศนะมากไม่น้อยเลยทีเดียว โดยยิ่งไปกว่านั้นการเจาะต้องตำหนิ แอตเวลล์ ที่เฉยเมยกับการให้จุดลูกโทษคราวนี้ เหตุเพราะถ้าเกิดดูจากภาพจะเห็นได้ชัดว่ามือของ โอดอย ไม่ได้อยู่ในลักษณะที่เป็นธรรมชาติ ขณะที่บอลไปถูกมือของเขา

กระนั้นก็มีการแย่งหัวข้อนี้ เนื่องจากว่าเมื่อเช็คจากวีดิโออย่างละเอียดลออจะเห็นได้ชัดว่าท่อนแขนของ กรีนวู้ด ขยับไปโดนแขนของ โอดอย ทำให้มือของเขาไปถูกบอลแบบไม่ตั้งใจ ด้วยเหตุนี้การที่ สจ๊วร์ต ใจแข็งไม่ยินยอมบ้าจี้ไปด้วยก็เลยเป็นการวินิจฉัยที่ถูกแล้ว

แต้มเดียวทำให้การลุ้นแชมป์ยิ่งไกลห่าง ผลเสมอในเกมนี้จำเป็นต้องพูดว่าไม่ใช่สิ่งที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและก็ เชลซี อยาก เนื่องจากว่าซึ่งก็นับได้ว่าเหตุการณ์สำหรับการสร้างจุดมุ่งหมายของทั้งคู่กลุ่ม เริ่มมีปัญหา โดยยิ่งไปกว่านั้น “ผีแดง” เนื่องจากว่าโน่นทำให้จังหวะไล่จักจี้ แมนเชสเตอร์ซิตี้ ยิ่งไกลห่างเข้าไปอีก

“สิงโตน้ำเงินคราม” ตั้งเป้าหมายที่จะเก็บ 3 คะแนนเพื่อหวังแซง เวสต์แฮมยูไนเต็ด ขึ้นไปรั้งชั้น 4 แต่ว่าการที่พวกเขาได้เพียงแต่แต้มเดียวในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำให้กลุ่มของผู้จัดการทีมฟุตบอลโธมัส ทูเคิ่ล เสียโอกาสสำหรับในการขึ้นไปยึดท็อปโฟร์

ช่วงเวลาที่ แมนฯ ยูไนเต็ จำเป็นต้องกล่าวว่าเสียหายหนักกว่า เพราะว่าปัจจุบันนี้ช่องว่างสำหรับเพื่อการลุ้นแชมป์ของพวกเขาเริ่มห่างจาก แมนเชสเตอร์ซิตี้ ออกไปๆมาๆกขึ้นถึง 12 คะแนน โน่นยิ่งมีผลต่อภาวะจิตใจของพวกเขาสำหรับเพื่อการลุ้นแชมป์ลีก

ลุ้นการเป็นแชมป์ ที่สำคัญตอนสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ “เร้ด เดวิลส์” มีคิวจะต้องทำศึกสงครามแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ ไปเยี่ยมถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม ถ้า โซลชา อยากได้บีบช่องว่างให้แคบลง เขาจะต้องเปิดเกมบุกใส่เจ้าของบ้าน แล้วก็โน่นไม่ใช่สไตล์ที่ถนัดเวลาเจอกลุ่มใหญ่ของ “น้าลูกอม” ซึ่งบางครั้งอาจจะส่งผลให้เกิดหายนะก็ได้ เกมใหญ่