ทีมหงส์แดง ฟอร์มยังบู่ไม่เลิกปัจจุบันเปิดแอนฟิลด์แพ้คาบ้านให้เบิร์นลี่ย์แบบเจ็บปวด 0-1

ทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูลฟอร์มยังบู่ไม่เลิกปัจจุบันเปิดแอนฟิลด์แพ้คาบ้านให้ เบิร์นลี่ย์แบบปวด 0-1 จากประตูชัยของ แอชลี่ย์ บาร์นส์ ที่ซัลโวประตูที่ 100 ในอาชีพของตนเอง นำมาซึ่งการทำให้หงส์แดง ถูกหยุดสถิติไม่มีพ่ายแพ้ในลีกไว้ที่ 68 นัดหมาย ตั้งแต่แมื่อ ม.ย. 2017 ทั้งแพ้ในลีกมา 5 เกมติด

รั้งอันดับ 4 มี 34 แต้มตามผู้นำฝูง “ผีแดง” ที่แข่งขัน 19 นัดหมายเสมอกันถึง 6 คะแนนแล้ว ในศึกบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันพฤหัสบดีที่ 21 เดือนมกราคม ก่อนหน้านี้ หงส์แดงแพ้เกมลีกมา 4 ครั้งติดต่อกันแล้ว โดยเป็นการเสมอ 3 แพ้ 1 กระทั่งชั้นรูดจากตำแหน่งหัวหน้าฝูง

ตกมาที่ 4 นัดหมายนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ตกลงใจส่งชื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และก็ โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่ เป็นเพียงแต่ผู้เล่นตัวสำรองแค่นั้น โดยให้โอกาสให้ ดิว็อค โอริกี้ กับ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ลงดินแดนหน้าประกบข้างซ้ายขวา ซาดิโอ มาเน่ ด้าน โฌแอล มาติป

ที่มีข่าวสารฟิตลงฝึกซ้อมเมื่อสองวันก่อนก็ได้พอดีจริง ในรายของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่คาดจะกลับมารับบทบาทเป็นกองกลางดังเดิมกลับไม่มีชื่อแม้แต่ผู้เล่นสำรอง โดย เชอร์ดาน ชากิรี่ ได้ช่องลงเล่นแทน ฝั่งเบิร์นลี่ย์ ผลงานในลีกแพ้มา 2 นัดหมายติดแม้กระนั้นแบบฉิวเฉียวะทั้งสิ้น

นัดหมายนี้เน้นเช่นเคยหวังบุกมาคว้าสามแต้มเพื่อทำชั้นหนีโซนด้านหลังตาราง เริ่มเกมได้เพียงแค่ 3 นาที หงส์แดงสร้างจังหวะแรกจากการเปิดข้างๆทางฝั่งขวาของ ชากิรี่ ไปเข้าหัว ฟาบินโญ่ ได้ขึ้นกระแทกแต่ว่าโดนเหลี่ยมไม่ดีบอลเลยออกข้างหลังไปมิได้ลุ้นอะไร เขยื้อนมาถึงนาทีที่10

เป็นเบิร์นลี่ย์ ตอบโต้กลับขึ้นมาบ้าง คริส วู้ด ส่งบอลตัดแผงปราการหลังเจ้าของบ้านไปให้ แอชลี่ย์ บาร์นส์ ทางฝั่งซ้ายของกรอบจุดโทษแล้วได้ส่องด้วยเท้าขวาแม้กระนั้นน้ำหนักรวมทั้งแนวทางไม่ดีนำมาซึ่งการทำให้บอลไหลเข้ามือ อลีสซง เบ็คเกอร์ นายด่านเลือดแซมบ้ารับไว้ แอนฟิลด์

ไม่มีปัญหานาทีที่13 เบิร์นลี่ย์หวุดหวิดขุดสกอร์แรกเมื่อ อลีสซง เบ็คเกอร์ ออกมาตัดบอลในจังหวะที่ คริส วู้ด บากบั่นขึ้นโหม่งแต่ว่าไม่ขาดก่อน วู้ด จะตามไปเก็บบอลแล้วส่งไวให้ แอชลี่ย์ บาร์นส์ ที่ยืนอยู่แถวเส้น 18 หลาได้ซัดแบบเตียนโล่งๆแม้กระนั้น อลีสซง ยังแก้ตัวได้เสร็จตามมาล้มตัวคุ้มครองปกป้องไว้ได้อย่างเฉียดฉิว

ทีมหงส์แดง

เกมดำเนินมาได้ 18นาที หงส์แดงครอบครองบอลได้มากกว่า

ทีมหงส์แดง นาทีที่21 เชอร์ดาน ชากิรี่ ตั้งป้อมซัดไกลด้วยเท้าซ้ายราวๆ 25 หลาบอลพุ่งแรงแม้กระนั้นแนวทางยังไม่ดีทำให้หลุดออกข้างเสาไปพอใช้ได้เสียว สองนาทีต่อมาลิเวอร์พูล

ยังอุตสาหะเจาะประตูอย่างสม่ำเสมอ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ไหลบอลให้ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ได้หวดย้ำๆนอกกรอบ แม้กระนั้นน้ำหนักค่อยเกินความจำเป็นบอลไหล เพนท์บอล

ไปเข้ามือนิคโป๊ป รับไว้ไม่มีปัญหา นาทีที่27 หงส์แดงได้ลูกฟรีคิกข้างๆทางฝั่งซ้าย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดยัดเข้าไปในจุดโทษ เบิร์นลี่ย์แต่มีเสียงสัญญาณนกหวีดดังขึ้นเหตุ

อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ไปทำฟาวน์ใส่หน้าแข้งกลุ่มเยี่ยมในจังหวะแทรกโต้แย้งเพื่อจะโหม่งบอล นาทีที่29 ดิว็อค โอริกี้ รับบอลจาก โรเบิร์ตสัน ก่อนที่จะฉุดกระชาก

เลาะขอบเส้นกรอบจุดโทษหาพื้นที่ว่างแล้วกดเลียดด้วยเท้าขวา บอลพุ่งตรงกรอบแม้กระนั้นยังไม่ผ่านมือ นิค โป๊ป ที่ล้มตัวคว้าไว้ได้อีกที กองทัพลิเวอร์พูลยังคงหาจังหวะขุด

สกอร์แรกได้อย่างสม่ำเสมอ นาทีที่32 ซาดิโอ มาเน่ ส่งบอลไปทางฝั่งซ้ายให้ โอริกี้ ได้ลากตัดเข้าเท้าขวาหน้ากรอบจุดโทษแล้วกดด้วยเท้าขวาอีกทีแต่ว่าก็ยังคงมีนิคโป๊ป

ที่ยังสมาธิไม่หลุดล้มตัวรับไว้ได้อีกคราว นาทีที่36 เบิร์นลี่ย์ได้ลูกฟรีคิกทางฝั่งซ้าย ดไวท์ แม็คนีล โยนโด่งยัดเข้าไปในจุดโทษหงส์แดงเป็น โอริกี้ ที่ขึ้นโหม่งสะสางในจังหวะแรก

แต่ว่าบอลดันเด้งไปเข้าทาง ร็อบ เบรดี้ ได้กดจังๆแม้กระนั้นราวกับจะโดนไม่ดีทำให้ค่อยเหลือเกิน อลีสซง เบ็คเกอร์ ก็เลยไม่ต้องออกแรงเหน็ดเหนื่อยรับเข้ามือสบาย

นาทีที่38 ว่ากล่าวอาโก้ อัลคันทาร่า ส่งบอลให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้เพิ่มเติมขึ้นไปหวดไกลแม้กระนั้นยังคุมแนวทางไม่ดีบอลบินออกผ่านคานไปไกล

2นาทีถัดมาเจ้าของบ้านได้ลุ้นอีกที มาเน่ ส่งบอลไปให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ทางฝั่งซ้ายแล้วกดเต็มข้อหวังยัดมุมแคบแต่ว่าถูกไม่ยอมรับโดย นิคโป๊ปนายด่านกลุ่มเยี่ยม

ที่ยืนตำแหน่งดีปักหลักตีบอลจัดการพ้นเขตอันตรายออกไปได้ จังหวะถัดมายังคงเป็นแชมป์เก่าที่บุกขึ้นมาอีกที เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้โอกาสกดด้วยเท้าซ้าย

ในกรอบจุดโทษทางฝั่งขวาแม้กระนั้นยังไปติดบล็อก ชาร์ลี เทย์เลอ หน้าแข้งกลุ่มเยี่ยมที่ตามมาล้มตัวบล็อกไว้ได้บอลไถลหลุดออกข้างหลังไป นาทีที่43 หงส์แดงคลาดโอกาสทองคำ

ที่จะทำแต้มขึ้นนำไปอย่างโชคร้ายจากจังหวะเปิดบอลยาวของ ฟาบินโญ่ บอลเสมือนจะไม่มีอะไรเลยไปถึง เบน มี แผงหลังเบิร์นลี่ย์ที่อุตสาหะคืนผู้เฝ้าประตูกลับเตะโดนเหลี่ยมไม่ดี

ทำให้ ดิว็อคโอริกี้ ที่วิ่งตามมากมายดดันโฉบตัดบอลไปได้ก่อนที่จะหลุดโดดเดี่ยวไปดวลกับนิคโป๊ป โดยโอริกี้ ตกลงใจเลือกยิงมุมบนดูอย่างกับว่าโชคจะไม่เข้าข้างบอลพุ่งไป

ชนคานรอบๆสามเหลี่ยมอย่างจังเด้งลงพื้นก่อนที่จะนิคโป๊ป จะยืนขึ้นมาคว้าเข้ามือไว้ได้อย่างเฉียดฉิว จบครึ่งแรกหงส์แดง เจ้าถิ่นที่เป็นไปได้มากกว่ายังเปิดสกอร์แรกมิได้เสมอกับ เบิร์นลี่ย์อยู่ 0-0

มาลุ้นต่อครึ่งเวลาข้างหลัง นาทีที่51 หงส์แดงแทบเปิดกล่องเขียนสกอร์แรก เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หลุดขึ้นไปเปิดบอลในจุดโทษเบิร์นลี่ย์ทางฝั่งขวาก่อนไปติด ดไวท์ แม็คนีล

แล้วกระเด้งมาเข้าทาง เทรนท์ อีกทีก่อนเจ้าตัวจะได้กดเน้นย้ำๆบอลพุ่งทำท่าจะแทงโคนเสาแต่ว่านิคโป๊ป ยังโชว์นิ่งล้มตัวปกป้องไว้ได้ยังไม่พลาด ผ่านมาถึงนาทีที่57 ตอบโต้กลับมาบ้าง

ดไวท์ แม็คนีล โยกหลอกจิ้มอ้อม เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้หลุดขึ้นไปเปิดบอลสุดขอบเส้นแต่ว่าไม่ผ่าน โฌแอล มาติเตียนป ที่อ่านเกมดีตัดบอลเอาไว้ได้

จังหวะถัดมาภายหลังจากบอลตายหงส์แดงตกลงใจสลับตัวผู้เล่นถึงสองคนโดย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลงมาแทน ดิว็อค โอริกี้ รวมทั้ง โรเบอร์โต้ ฟิร์ไม่โน่ ลงมาแทน อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน

รวมทั้งเกมของกองทัพลิเวอร์พูลก็ดูดีขึ้นทันตาเห็น นาทีที่60 เกือบจะได้ประตูอีกรอบ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ฉุดกระชากพาบอลมาจากดินแดนตนเองก่อนที่จะส่งให้ ซาลาห์

ได้เลือกมุมยิงจ่อๆในจุดโทษเบิร์นลี่ย์ แต่ว่าดันไปติดเซฟนิคโป๊ป ที่เกมนี้โชว์โคตรเซฟพุ่งดักถูกทางคว้าบอลเอาไว้ได้ทำเอา ซาลาห์ ถึงกับนำมือไปจับที่ศีรษะด้วยความเสียดาย

ทีมหงส์แดง

ทีมหงส์แดง ลิเวอรพูลยังเดินหน้าโหมบุกโดยตลอดนาทีที่64 ซาลาห์ เปิดบอลสุดเส้นฝั่งขวาย้อนกลับมาให้ มาเน่ ที่วิ่งเข้ามาชาร์ทย้ำๆรอบๆแถบจุดลูกโทษแม้กระนั้นดูเหมือนจะเตะใต้บอล

ทำให้บินผ่านคานออกไปอย่างโชคร้ายนาทีที่67 เบิร์นลี่ย์ทำหวาดเสียว แมทธิว ลอว์ตัน เปิดโด่งไปให้ แอชลี่ย์ บาร์นส์ ได้ซัดจ่อๆแม้กระนั้น อลีสซง พุ่งปัดไว้ได้ แต่มีสัญญาณล้ำหน้า

จากผู้ช่วยผู้ตัดสินตามมาต่อจากนั้นนาทีที่71 เบิร์นลี่ย์เกือบจะใช้จังหวะอันน้อยนิดโจมตีหงส์แดงได้โดย ดไวท์ แม็คนีล ใข้ความเร็วกลับตัวหลุดขึ้นไปเปิดบอลสุดขอบเส้นฝั่งซ้าย ดูบอลสด

ยัดเข้าไปถึง โยฮันน์ กุ๊ดมุนด์สสัน ที่โฉบมากมายดเน้นย้ำๆบอลหลุดออกเข้าข้างตาข่ายไปอย่างโชคร้าย นาทีต่อมา นิค โป๊ป นายด่านเบิร์นลี่ย์เปิดบอลด้วยการโยนไม่ดีทำให้ถูก โรเบิร์ตสัน

ที่จ้องมองอยู่ตัดเอาไว้ได้ก่อนที่จะทำชิ่งกับ ฟิร์ไม่โน่ ที่ได้กดย้ำๆแม้กระนั้นแนวทางก็ยังไม่ดีหลุดออกข้างหลังไปอีกทีนาทีที่78หงส์แดงได้ลูกฟรีคิด ตรงมุมกรอบจุดโทษฝั่งขวา

เทรนท์ เปิดโด่งไปทางเสาไกลโดยมี มาเน่ กระโจนจัดแจงโหม่งแม้กระนั้นถูก นิคโป๊บ ลอยตัวต่อยบอลออกไปพ้นเขตอันตราย หงส์แดงที่ครอบครองเกมได้แทบทั้งหมดรวมทั้งโหม

บุกเพลิดเพลินๆกลับมาเสียประตูนาทีที่ 83 จากลูกจุดลูกโทษโดย แอชลี่ย์ บาร์นส์ ที่กลับตัวหนี ฟาบินโญ่ หลุดเข้าไปสัมผัสบอลหนี อลีสซง เบ็คเกอร์ ที่จะตามมาคว้าบอล

แม้กระนั้นช้ากว่ากลายเป็นไปปัดโดนปลายตีน บาร์นส์ ล้มลง ไมค์ ดีน ผู้ตัดสินเกมนี้ไม่ลังเลเป่าเป็นจุดลูกโทษในทันที แล้วก็เป็น แอชลี่ย์ บาร์นส์ ยืนขึ้นมาฆ่าไม่เหลือโดย อลีสซง

ทายใจถูกทางแต่ว่าด้วยความแรงของลูกฟุตบอลทำให้ไปไม่ถึง เบิร์นลี่ย์ออกนำ 1-0 ข้างหลังเสียประตู คล็อปป์ ส่งไผ่ใบท้ายที่สุดลงมาหวังเรียกสกอร์โดยแปลง เชอร์ดาน ชากิปรี่

ออกรวมทั้งส่ง ทาคูไม่ ไม่นามิโนะ ลงมาแทนนาทีที่90 หงส์แดงแทบทำคะแนนตีเสมอได้จากจังหวะยิงแปลงทางบอลจ่อๆของ ฟิร์ไม่โน่ แม้กระนั้นยังมี ดไวท์ แม็คนีล

ที่ยืนอยู่เหมาะสมถูกเวลาบอลไปประจำตัว แม็คนีล ออกข้างหลังไปอย่างเฉียดฉิว ตอนทดแทนเวลาการประลอง 5นาที หงส์แดงพากเพียรจู่โจมหวังทวงประตูคืนแต่ว่าไม่เป็นผลสำเร็จ

ทำให้จบเกมเปิดบ้านแพ้เบิร์นลี่ย์ ไป 1-0 หงส์แดงถูกหยุดสถิติไม่มีปราชัยในลีกไว้ที่ 68 นัดหมาย ตั้งแต่แมื่อ เดือนเมษายน 2017 ทั้งแพ้ในลีกมา 5 เกมติด รั้งชั้น 4 มี 34 แต้ม

ตามผู้นำฝูง ผีแดงที่แข่งขัน 19 นัดหมายเสมอกันถึง 6 คะแนนแล้ว ช่วงเวลาที่เบิร์นลี่ย์ ปลดล็อคการทำประตูกลุ่มเยี่ยมเม็ดแรกได้เสร็จนับจาก 3 ตุลาคมปีที่ผ่านมา