ก็ไม่ได้ดีอะไรเลย ก่อนที่จะแมตช์นี้จะเริ่ม ฟอร์มของ เซาธ์แฮมป์ตัน

ก็ไม่ได้ดีอะไรเลย ภายหลังเกมลีกที่ชนะ หงส์แดง ตอนต้นปี ที่เหลือก็คือคำว่าแพ้รวดเรียบวุธ โดยเหตุนั้นการมาเยี่ยม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จังหวะที่จะกลับไปอยู่บ้านมือเปล่ามีค่อนข้างจะสูง แม้กระนั้นไม่คิดว่าเกมมันจะจบตั้งแต่สองนาทีแรก ประเด็นนี้โทษผู้ใดมิได้นอกเหนือจาก

การเข้าบอลที่กะพรวดกะพราดขนาดสติของ อเล็กซานเดอร์ ยานเควิตซ์ หน้าแข้งดาวรุ่งวัย 19 ปีไปเปิดปุ่มอันตรายเข้าใส่ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ทำให้ ไมค์ ดีน ไม่มีวันเลือกจำเป็นต้องแจกใบแดงเป็นการลงทัณฑ์ ภายหลังที่เปิดปุ่มใส่ “แม็คโท” ยานเควิตซ์ ยังทำหน้าสารภาพภาวะ

ไม่พร่ำบ่นสักคำ รวมทั้งทำให้เขาเปลี่ยนเป็นนักฟุตบอลผู้ที่ 4 ในหน้าประวัติศาสตร์ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่โดนไล่ออกภายหลังที่เกมเริ่มมาได้เพียงแค่ 2 นาที ยานเควิตซ์ คงจะได้ทำความเข้าใจจากประสบการณ์ในคราวนี้ ภายหลังที่เขาได้สัมผัสเกมลูกหนังลีกสูงสุดเป็นแมตช์ที่ 2

แล้วก็เป็นตัวจริงหนแรกให้กับ “เดอะ เซนต์ส” ในอนาคตเจ้าตัวน่าจะอ่านเกมให้ดียิ่งกว่านี้ก่อนจะเข้าบอล โดยยิ่งไปกว่านั้นกับการเล่นในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ! สำหรับใบแดงที่ 2 ช่วยด้านหลังเกมจะต้องกล่าวว่าไม่เป็นผลอะไรมากเท่าไรนักเนื่องจากว่านักฟุตบอลเซาธ์หมูแฮมป์ตัน

ยอมแพ้ไปตั้งแต่เวลาพักครึ่งแล้ว สองฟูลแบ็กปฏิบัติภารกิจได้อย่างสะดุดตา หนึ่งในเสียงวิภาควิจารณ์ที่เกี่ยวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอๆมันก็คือสองฟูลแบ็กของพวกเขาที่ไม่ค่อยได้ช่วยเหลือกลุ่มมากสักเท่าไรนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ในที่สุด แม้กระนั้นเกมนี้ทั้งยัง เพนท์บอล

อารอน วาน-บิสซาก้า รวมทั้ง ลุค ชอว์ ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวข้างต้นได้อย่างยอดเยี่ยม ประตูแรกจะต้องบอกเลยว่ามาจากการทำงานด้วยกันได้อย่างยอดเยี่ยมของสองฟูลแบ็ก เมื่อ ชอว์ เป็นคนเปิดบอลจากฝั่งซ้ายให้ วาน-บิสซาก้า ที่วิ่งเพิ่มเติมจากฝั่งขวาจ่ายบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย

เป็นการปลดล็อกเกมรุกของ “ผีแดง” แล้วก็ทำให้เกิดการทำประตูถล่มทลาย

ดูบอลสด

ก็ไม่ได้ดีอะไรเลย จะว่าไปแล้วแมตช์นี้อาจไม่ใช่เรื่องแปลกที่ตัวบุกปีกซ้าย-ขวาของ แมนฯ ยูไนเต็ด

จะเล่นเกมบุกสบายๆเนื่องจากพวกเขาไม่ต้องไปพะวักพะวงเรื่องเกมรับเลย เพราะเหตุว่าคู่แข่งขันมีผู้เล่นน้อยกว่าตั้งแต่เวลารุ่งสาง รวมทั้งทำเป็นเพียงตั้งรับสิ่งเดียวแค่นั้น อย่างไรก็แล้วแต่ ก็จำเป็นต้องชูเครดิตให้กับ ชอว์ กับ วาน-บิสซาก้า ที่เล่นได้อย่างเด่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติม

เกมรุกทั้งคู่ฝั่ง ทำให้กลุ่มได้โอกาสสำหรับเพื่อการเข้าทำนานัปการ และก็นำมาซึ่งสกอร์ที่ชั่วร้ายห้ามอุทธรณ์ซึ่งสาวก “นักบุญ” อาจไม่ได้อยากต้องการจำ เกมรุกกลับมาพอดีอีกที ตอนต้นมกราคมนี้ “ซาตานแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีปัญหาประเด็นการทำประตูพอเหมาะพอควร

พวกเขาซัดไปเพียงแค่ 6 ลูกในเกมลีกแค่นั้น แม้กระนั้นผลงานในแมตช์นี้ทำให้ฟอร์มการเล่นเกมรุกที่เคยดุเดือดคืนกลับมาทันหน มาร์คัส แรชฟอร์ด ทำประตูแรกในเกมลีกตั้งแต่แมื่อต้นเดือนม.ค. ในช่วงเวลาที่ เอดินสัน คาวานี่ ซัดประตูแรกในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้านอองโตนี่มาร์กสิยาล

ลงมาเป็นตัวสำรองจัดแจงสอยสองประตูในเกมนี้ถือว่าเป็นการเรียกความเชื่อมั่นและมั่นใจกลับมาได้อีกรอบ ส่วน บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่มิได้มีความเกี่ยวข้องกับประตูของ แมนฯ ยูไนเต็ด 5 เกมลีกหลังสุด แมตช์นี้ก็จัดแจงทบต้นทบดอกยิงจุดลูกโทษ และก็ทำแอสซิสต์ให้ ดูบอลสด

แดเนี่ยลเจมส์ กับ มาร์กสิยาล ถือได้ว่าเป็นการเรียกผลงานชั้นยอดเยี่ยมแบบเดิมกลับมาอีกที การคว้า 3 คะแนนพร้อมสกอร์ขนาดนี้ แน่ๆว่าเป็นการปลอบขวัญพลังใจของพวกพ้อง “เร้ด เดวิลส์” ได้อย่างดีเยี่ยม ภายหลังที่ฟอร์มฝืดในเกมลีก 2 แมตช์ต่อเนื่องกัน แรชฟอร์ด เดินหน้าทำลาย

สถิติตำนาน จะต้องสารภาพว่า แรชฟอร์ด เป็นความภูมิใจของเหล่าสาวก “เร้ด อาร์มี่” เพราะว่าเขาเป็นเด็กก้นกุฏิจากสถาบันลูกกรอกคึกคะนอง รวมทั้งปรับปรุงฝีเท้ากระทั่งก้าวขึ้นกับในกลุ่มชุดใหญ่ในสมัยของ หฝ่าส์ ฟาน กัล ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นตัวหลักของกลุ่มในขณะนี้ “หนูแรช” มิได้

มีดีเพียงแค่ความเร็ว รวมทั้งความสามารถสำหรับเพื่อการลากเลื้อยเพียงแค่นั้น จังหวะจบสกอร์ของเขาก็เฉียบคมมากมายๆหากแม้ในระยะหลังๆบางครั้งก็อาจจะฟอร์มสะดุด แต่ว่าเจ้าตัวก็ยังคงมีสาระในขณะที่กลุ่มเดินหน้าเปิดเกมบุกเข้าใส่คู่ปรปักษ์ ม้ว่าเกมนี้ หัวหอกข้าวกลางวันเด็ก

จะยิงได้เพียงแค่ประตูเดียว แต่ว่าเป็นประตูที่สื่อความหมายสำหรับเขามากมายๆเนื่องจากทำให้ปัจจุบันนี้เจ้าตัวซัดไปแล้ว 83 ลูกในทุกรายการ

สวมบทนักโน้มน้าว

เหนือกว่า เอริค “เดอะ คิง” คันโตน่า

ตำนานสมาคม ที่เคยยิงให้ “ผีแดง” 82 ประตู สำหรับรายถัดไปที่ แรชฟอร์ด จะยิงแซงหน้าก็คือ เดวิด เบ็คหมูแฮม ตำนานจอมปั่นฟรีคิกของกองทัพ “ผีแดง” ที่มีสถิติทำประตูให้กับ แมนฯ ยูฯ 85 ลูก ด้วยเหตุดังกล่าวด้วยวัย แล้วก็จังหวะลงไปในสนามมากมายขนาดนี้ แน่ๆว่าเขาอาจจะ

ทำเป็นอยู่แล้ว อย่างไรก็ดีสิ่งที่ แรชฟอร์ด จำต้องทำให้ได้มากกว่าทำประตูก็คือการนำกลุ่มครอบครองแชมป์พรีเมียร์ลีก ไม่อย่างนั้นอาจจะเป็นไปได้เพียงแค่กษัตริย์ไม่มีมงกุฎ !! เกมเดียวคุ้มจริงๆสกอร์กระดานที่มองเห็นไม่ใช่เรื่องพูดปด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านต้อน สวมบทนักโน้มน้าว

เซาธ์แฮมป์ตัน เปรอะแบบไม่เกรงใจชมรมที่เคยปราบ หงส์แดง แชมป์เก่าเมื่อต้นปีนี้ ที่สำคัญสกอร์โอฬารขนาดนี้ทำให้ “ภูติผีปีศาจแดง” ส่งผลต่างประตูได้เสียพอๆกับ คู่ปรับร่วมลีกในทันที แถมยังเป็นกลุ่มที่ทำประตูมากมายสุดในลีกด้วย อาจไม่ต้องบรรยายฟอร์มของ แมนฯ ยูฯ

เนื่องจากว่ามองอย่างไรพวกเขาก็เหนือกว่าแบบร้อยเปอร์เซนต์ เนื่องมาจากมีผู้เล่นมากยิ่งกว่าตั้งแต่ 2 นาทีแรก ซึ่งเท่านั้นเองก็นับว่าเกมจบไปเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ก็แค่ที่น่าอัศจรรย์ก็คือสกอร์กินขาดขนาดนั้น หากแม้ช่วงท้ายเกมกลุ่มเยี่ยมจะโดนไล่ออกอีกคน แต่ว่าก็ไม่เป็นผล

อะไรมากเท่าไรนัก เพราะหน้าแข้ง “นักบุญ” ยอมแพ้ไปตั้งแต่ครึ่งแรกแล้ว ก็เลยไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะโดนยำใหญ่ขนาดนี้ แม้กระนั้นสิ่งจำเป็นก็คือฝั่งเจ้าของบ้านที่เว้นแต่เก็บ 3 คะแนนสำคัญแล้ว พวกเขายังมีความฮึกเหิมในแมตช์ถัดไปที่จะเจอกับ เอฟเวอร์ตันด้วย

ส่วนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ หงส์แดง ที่จะต้องลงแข่งขันในวันพุธนี้ พวกเขาคงจะรู้สึกบีบคั้นไม่น้อยด้วยเหตุว่าจำเป็นต้องเก็บชัยให้ได้