สู้ไม่ถอยไล่ตี ช่วงท้ายเกมสุดมันส์ แม้กระนั้นหนึ่งคะแนนก็ทำให้ครองจ่าฝูงแบบเดี่ยว

สู้ไม่ถอยไล่ตี เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 6 ระหว่าง “น้องใหม่” ฟอร์มแรงอย่าง เบรนท์ฟอร์ด ที่ก่อนแข่งขันรั้งชั้น 10 เกมปัจจุบันกระหน่ำ โอลด์แฮม ในลีกคัพ 7-0 ส่วนฟอร์มในลีกปัจจุบันบุกไปอัด วูล์ฟส์ฯ 2-0 เกมนี้เปิดบ้านเจอกับ หงส์แดง ที่ก่อนเกมรั้งหัวหน้าฝูงขณะที่ผลงานในลีกกระหน่ำ พาเลซ 3-0 ก่อนเกมลีกคัพ กึ่งกลางสัปดาห์จะบุกอัด นอริช ด้วยสกอร์ 3-0 ด้วยเหมือนกัน

โธมัส แฟร้งค์ ยังฝากทีเด็ดล่าตาข่ายไว้ที่สองคู่หัวหอก อย่าง ไบรอัน เอ็มเบวโม่ และก็อีแวน โทนี่ย์ ส่วน เจอร์เก้น คล็อปป์ จัดสามผสานทั้งยัง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดีโอโก้ โชต้า รวมทั้ง ซาดิโอ มาเน่ เหมือนปกติ วินิซิอุสเบิ้ล

สู้ไม่ถอยไล่ตี

เปิดเกมมา ครั้งที่ 7 แฟน แทบได้เฮหลัง เพรสเอาชนะแดนกึ่งกลาง มาได้ก่อนที่จะ ดีโอโก้ โชต้า จะแทงทะลุช่องให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์

หลุดกับล้ำหน้าเข้าไปซัดผ่านตัว ดาบิด ราย่า บอลค่อยๆเกลือกกำลังจะผ่านเส้นประตูอยู่สุดแท้แต่ คริสตอฟเฟอร์ เอเยอร์ ยังเร็วตามไปล้มตัวสกัดก่อนเข้าประตูได้เฉียด

อีกสองนาทีต่อมา เจ้าของบ้าน แทบได้ลุ้นขึ้นนำเหมือนกัน หลัง ไบรอัน เอ็มเบวโม่ พาบอลตะลุยเข้าไปก่อนจะปลิ้นมาเข้าทาง แฟร้งค์ ออนเยก้า ตวัดยิงแบบปลอดคนประกบ เหาะคานไปแบบได้เสียว

บอลแลกเปลี่ยนกันบันเทิงใจ ครั้ง 11 “เดอะ บีส์” คงจะได้ประตูขึ้นนำอีกรอบ ตอนนี้ ดาบิด ราย่านายด่านเจ้าถิ่นสาดบอลยาวให้ อีแวน โทนี่ย์ เทกขึ้นกระแทกชงให้ เอ็มเบวโม่ หลุดเข้าไปก่อนชิพเข้าตัว อลีสซง บอลกำลังจะเข้าอยู่แล้วทว่า โฌเอล มาติ๊ป ที่เป็นตัวท้ายที่สุดยังตามมาช่วยสกัดก่อนผ่านเส้นไปอย่างเฉียดฉิว

จนกระทั่ง ครั้ง 27 แฟนบอลเจ้าถิ่นพอใจเฮกันลั่นอีกทั้งสนาม เมื่อ เบรนท์ฟอร์ด มาได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 บอลจากฟรีคิกกึ่งกลางสนามเล่นสั้นให้ คริสเตียน นอร์การ์ด ตักบอลให้ เซร์กี้ กายอซ หลุดถึงเส้นหลังก่อนเฉือนมาเสาแรกให้ อีแวน โทนี่ย์ ขัดบอลแปลงทางไปเสาไกลแล้วก็เป็น เอธาน พินน็อค แนวรับที่เพิ่มเติมสูงมาล้มตัวยิงเข้าไปตุงตาข่าย

แม้กระนั้นเจ้าของบ้านดีใจได้ไม่นาน ตอน 31 “ลิเวอร์พูล” มาทวงประตูไล่ตีเสมอ 1-1 สำเร็จ บอลจาก ซาลาห์ ทางด้านขวาดึงจังหวะให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ไม่มีตัวประกบบรรจงเปิดมาหน้าประตูอย่างเที่ยงตรงให้ ดีโอโก้ โชต้า เทกตัวกระแทกบอลเข้าไปอย่างสวยงาม https://ifragpaintball.com/

จังหวะ 39 สมาชิก ชวดได้ประตูแซงขึ้นนำ หลัง เคอร์ติส โจนส์ ตะบันนอกกรอบไปไถล

พินน็อค พุ่งไปชนเสา ดีโอโก่ โชต้า ตามไปซ้ำเสาแรกแม้กระนั้นยังโดนปลายมือของ ดาบิด ราย่า เซฟบอลก่อนปลิ้นออกหลังทางเสาไกลอย่างเกินจริง นาที 43 โธมัส แฟร้งค์ นายใหญ่ จำต้องแปลงเอา มัทธีอัส “ซานก้า” ยอร์เกนเซ่น ลงมาเล่นแทน เอธาน พินน็อค

คนยิงขึ้นนำที่เล่นต่อไม่ไหวหลังมีความรู้สึกเจ็บ นาทีท้ายที่สุดครึ่งแรก “ลิเวอร์พูล” มาได้ลุ้นฟรีคิกกว่า 20 หลาหน้ากรอบ แต่ว่า เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ปั่นบอลผ่านคานออกไป จบครึ่งแรก เสมอกับ หงส์แดง 1-1

สู้ไม่ถอยไล่ตี

ช่วงหลัง ตอน 49 ลิเวอร์พูล ได้เสียวเลยหลัง โรเบิร์ตสัน ครอสมาเสาแรก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน โฉบมากระแทกแม้กระนั้นไม่โดน บอลไปตกโดนเข่า โชต้า แปลงทางไปเสาแรกแต่ว่า ดาบิด ราย่า ยังเหนียวพุ่งปัดออกหลังหวุดหวิด

ตอน 54 ฟาบินโญ่ ตักบอลผ่านแนวรับเจ้าถิ่นให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วิ่งมาแปด้วยซ้ายผ่านมือ ดาบิด ราย่า แทรกเสาแรกเข้าไป ถึงแม้จังหวะแรกผู้ตัดสินจะเป่าเป็นล้ำหน้าของศูนย์หน้าชาวอียิปต์ก่อน

แต่ว่าหลังเช็กกับ วีเออาร์แล้ว ซาลาห์ อยู่ในไลน์ไม่ล้ำหน้าทำให้คืนคำตัดสินให้ หงส์แดง ได้ประตูขึ้นนำ 2-1 รวมทั้งเป็นประตูที่ 100 ของซาลาห์ที่ยิงให้ ในพรีเมียร์ลีกจากการลงไปในสนาม 151 เกม ซึ่งเร็วสุดในประวัติศาสตร์ 129 ปีของสโมสร

เจ้าบ้านไม่ยอมแพ้ง่ายๆ นท. 63 มาพังทลายประตูไล่ตีเสมอ 2-2 ได้เสร็จ บอลครอสจากด้านขวามเสาไกลก่อนตกเข้าเท้า ปอนตุส แยนส์สัน กลับตัวกลับใจยิงไปชนคาน แต่ว่ายังมาเข้าทาง วิตาลี่ ยาเนลต์ กระแทกจังหวะแรกไปติดก่อนที่จะตามเข้าไปกระแทกซ้ำบอลผ่านเส้นไปแล้ว

แม้กระนั้นอีกสามนท. ต่อมา นท. 67 แฟน มาเฮกันลั่นบ้าง หลัง โรเบิร์ตสัน ไหลให้ เคอร์ติส โจนส์ ตะบันด้วยขวานอกกรอบบอลพุ่งแรงไปไถล เอเยอร์ แนวรับเจ้าถิ่นก่อนแทรกเสาแรกเข้าไป ให้ แซงนำอีกที 3-2 ก่อนเจ้าตัวจะโดนถอดออกแล้วให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ลงมาเล่นแทน ข่าวมวย

เจ้าบ้านยังสวมหัวใจสู้ไม่ถอย จนกระทั่งนาทีที่ 82 เบรนท์ฟอร์ด มาไล่ตีเสมออีกทีเป็น 3-3 บอลครอสเข้ามาเสาไกลก่อนที่จะตกตกใส่ โยอันเน่ วิสซ่า ตัวสำรองที่ลงมาชิพผ่านตัว อลีสซง เข้าไปซุกก้นตาข่าย จบเกม เบรนท์ฟอร์ด สวมหัวใจสู้ไล่เจ๊าหงส์แดง สุดมันส์ 3-3 แบ่งแต้มกันไปกลุ่มละคะแนน