ชวดคว้าชัย ที่สองรองจากสุดท้ายมีเพิ่มเป็น 25 คะแนนตาม อันดับ 17

ชวดคว้าชัย เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เจ้าบ้าน แอสตัน วิลล่า อันดับ 11 เปิดบ้านรับการมาเยี่ยมของ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน กลุ่มรองบ๊วยอันดับ 19 ของตาราง เริ่มเกมมาได้เพียงแค่ 8 นาที แอสตัน วิลล่า มาได้ลูกที่จุดลูกโทษ หลัง เซมี่ อจายี่ ไปฟาวล์ใส่ รอสส์ บาร์คลี่ย์ ล้มลงในจุดโทษ เหตุการณ์ในตอนนี้

ผู้ตัดสินเป่าให้จุดลูกโทษในทันที ก่อนที่จะเป็น อันวาร์ เอล กาซี่ มือสังหารจุดลูกโทษของทีมยิงเข้าไปไม่พลาดให้ “สิงห์ผงาด” ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 เป็นประตูที่ 7 ของเจ้าตัวในช่วงฤดูกาลนี้ นาที 11 เวสต์บรอมวิช มาได้ลุ้นฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษกว่า 23 หลา และก็เป็น มาเตอุส ที่วิ่งมาปั่นผ่านกำแพงเฉียดฉิวคานออกไปแบบได้เสียว

ตอน 22 “เดอะ แบ็กกี้ส์” มาเรียกจุดลูกโทษคืนบ้าง หลัง เอซรี่ คอนซ่า เสียท่าไปดึง เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส ล้มลง ผู้ตัดสิน สจ๊วร์ต แอ็ตต์เวลล์ เป่าให้จุดลูกโทษแก่ทีมเยือนโดยทันที พร้อมวีเออาร์รับรองว่าเป็นจุดลูกโทษ ชวดคว้าชัย ก่อนที่จะ มาเตอุส จะรับหน้าที่ฆ่าจุดโทษ เข้าไปไม่เหลือให้ เวสต์บรอมวิชฯ ไล่ตีเสมอ แอสตัน วิลล่า 1-1

เกมยังแลกเปลี่ยนกันสนุก ตอน 27 กลุ่มเยี่ยมเกือบจะได้ลุ้นแซงขึ้นนำหลัง มาเตอุส เปเรยร่า เปิดฟรีคิกเข้ามาในกรอบให้ โอคาย โยคุสลู เทกขึ้นกระแทกหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

แล้วหลังจากนั้น อีกสองนาทีต่อมา เจ้าบ้าน “สิงห์ผงาด” โต้ตอบมาแบบเดียวกัน โอกาสนี้ จอห์น แม็คกินน์ แทงให้ อันวาร์ เอล กาซี่ ซัดด้วยขวานอกกรอบแต่ว่าก็ยังไม่ผ่านมือ แซม จอห์นสตัน

ตอน 33 รอสส์ บาร์คลี่ย์ สร้างช่องทางให้ตนเองบ้างโอกาสนี้รับบอลจาก แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์ ก่อนกลับบอลซัดด้วยขวานอกกรอบแต่ว่าบอลก็ยังพุ่งไปเข้ามือ แซม จอห์นสตัน ที่ยืนตำแหน่งได้อย่างดียิ่ง

ช่วง 40 เปเรยร่า โชว์สกิลหนีหลบจากมุมธงอย่างเหนือชั้น ก่อนม้วนตัวหลบเข้ามาแล้วเฉือนเลียดมาให้ เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส วิ่งมาซัดเต็มข้อบอลพุ่งจนกระทั่ง เอมิลิอาโน่ มาร์ติเนซ จำต้องตีออกไป

ช่วง 42 สมาชิกของ “บิ๊กแซม” แทบแซงขึ้นนำอีกที หลังได้ฟรีคิกนอกกรอบเยื้องทางขวา ก่อนที่จะเป็น เปเรยร่า ที่วันนี้เล่นได้อย่างสะดุดตาวิ่งมาปั่นฟรีคิกบอลโค้งหนีมือ มาร์ติเนซ ไปสุดแท้แต่พุ่งไปชนคานอย่างโชคร้าย

จบครึ่งแรก เท่ากัน 1-1 เริ่มมาได้ เปลี่ยนเป็น เวสบรอมวิช ที่กลับแซงขึ้นนำ 2-1

บอลจาก แซม จอห์นสตัน สาดโด่งขึ้นหน้า เอซรี่ คอนซ่า บากบั่นเอาบอลลงแต่ว่าดันลื่น บอลไปเข้าทาง เอ็มบาย เดียง ลากเข้าไปซัดด้วยขวาบอลพุ่งไปแฉลบ ไทโรน มิงส์ ทำเข้าประตูตัวเองไป เกมรุกของ “เดอะ แบ็กกี้ส์” บุกมาตลอด ประมาณ 53 คอเนอร์ ทาวน์เซนด์ ตัวบุกปีกซ้ายเปิดบอลขึ้นหน้าให้ คัลลัม โรบินสัน หลุดเข้าไปซัดเสาแรก

แม้กระนั้นบอลยังพุ่งไปเข้ามือ มาร์ติเนซ นายด่านวิลล่า ช่วง 61 เกือบจะได้ลุ้นตีเสมอหลัง อาห์เหม็ด เอล โมฮามาดี้ วิ่งมาซัดนอกกรอบสุดแรงเกิด บอลพุ่งไปทางเสาไกลแม้กระนั้นยังเป็น แซม จอห์นสตัน นายด่านแบ็กกี้ส์ พุ่งปัดออกไปได้

จังหวะเป็นของ วิลล่า อีกรอบ ประมาณ 70 จอห์น แม็คกินน์ ทิ้งบอลขึ้นหน้าให้ โอลลี่ วัตกิ้นส์ สลัดตัวตามติดเข้าไปรับบอลในกรอบก่อนซัดไปตรงตัว แซม จอห์นสตัน ที่เซฟช่วยกลุ่มเยี่ยมไว้ได้อีก เพนท์บอล

เจ้าของบ้านบุกเพลิดเพลินๆ ประมาณ 76 เกือบจะเสียเม็ดลำดับที่สามให้ เวสต์บรอมวิชฯ หลังมาเตอุส ได้บอลจากนอกกรอบก่อนตะบันซัดเต็มข้อ บอลพุ่งแทบลอดใต้คานแม้กระนั้นยังดีที่ เอมิลิอาโน่ มาร์ติเนซ ยังสปริงโผบินปัดผ่านคานเฉียด

ครั้ง 86 วิลล่า ชวดได้ประตูอีกหลัง บอลโกลาหลอยู่หน้าปากประตูของแบ็กกี้ส์ ก่อนจะล้นมาเข้าทาง คีแนน เดวิส ผู้เล่นสำรองซัดบอลไปชนเสาอย่างโชคร้าย

แม้กระนั้นแล้วช่วงต่อเวลาพิเศษเจ็บ ครั้ง 90+2มาไล่ตีเสมอ 2-2 เสร็จ บอลวางยาวมาเสาสองให้ โอลลี่ วัตกิ้นส์ กระแทกตั้งเข้ากึ่งกลาง ไคล์ บาร์ทลี่ย์ ใจเย็นเพียรพยายามพักอกเล่น แต่ว่าโดน คีแนน เดวิส ฉกบอลมาทางด้านหลังก่อนจ่ายบอลเข้าก้นตาข่าย

ตอนที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม แอสตัน วิลล่า เสมอ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 2-2 แบ่งแต้มกันไปกลุ่มละคะแนน ทำให้ “สิงห์ผงาด” มีเพิ่มเป็น 45 คะแนน! รั้งอันดับ 11 อย่างเดิม ส่วนผู้ร่วมทีมของ แซม อัลลาร์ไดซ์ เสียหายไม่น้อย ชวดคว้าชัย ทำให้มีเพิ่มเป็น 25 คะแนนแต่ว่ารั้งรองบ๊วย ชั้น 19 อย่างเดิม

• รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แอสตัน วิลล่า (4-2-3-1) : เอมิลิอาโน่ มาร์ติเนซ – อาห์เหม็ด เอล โมฮามาดี้, เอซรี่ คอนซ่า, ไทโรน มิงส์, แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์! – จอห์น แม็คกินน์, ดั๊กลาส ลุยซ์ (จาค็อบ แรมซี่ย์ น.78) – เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่, รอสส์ บาร์คลี่ย์ (คีแนน เดวิส น.82), อันวาร์ เอล กาซี่ – โอลลี่ วัตกิ้นส์ ดูบอลสด

เวสต์บรอมวิชฯ (4-1-4-1) : แซม จอห์นสตัน – ดาร์เนลล์ เฟอร์ลอง, เซมี่ อจายี่, ไคล์ บาร์ทลี่ย์, คอเนอร์ ทาวน์เซนด์ – โอคาย โยคุสลู! – มาเตอุส เปเรยร่า, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส (ดาร่า โอเช น.86), คัลลัม โรบินสัน (แม็ตต์ ฟิลลิปส์ น.67) – เอ็มบาย เดียง