หลังเรียกจุดลูกโทษ ซัดประตูให้กลุ่มขึ้นนำโดนใบแดงถูกไล่ออก แถมจำเป็นต้องเซ่นอาการเจ็บ

หลังเรียกจุดลูกโทษ ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นศึกนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ระหว่าง อาร์เซน่อล ชั้น 10 หลังเรียกจุดลูกโทษ เปิดบ้านรับการมาเยี่ยมของคู่แข่งอย่าง สเปอร์ส ชั้น 7 มิเกล อาร์เตต้า พาทีมไม่แพ้มา 4 นัดหมายติดทุกรายการ

เกมที่แล้วในลีกบุกไปเสมอกับ เบิร์นลี่ย์ 1-1 เกมนี้ดร็อป โอบาเมย็อง เป็นสำรองแล้วส่ง อเลซ็องดร์ เป็นหน้าเป้าโดยมี บูคาโย่ ซาก้า, โอเดนการ์ด รวมทั้ง เอมิล สมิธ โรว์ ปั้นเกมรุกช่วยเหลือ ระเบิดฟอร์มโหดเหี้ยม

ส่วน โชเซ่ มูรินโญ่ พาทัพไก่เดือยทองชนะมา 5 นัดหมายรวดทุกรายการ เกมนี้ “น้ามู” แปลงเพียงแค่ตำแหน่งเดียวจากเกมกระหน่ำ คริสตัล พาเลซ 4-1 ส่วนแนวรุกยังเป็นชุดเดิม แกเรธ เบล, ลูคัส มูร่า, ซน ฮึง-มิน แล้วก็ แฮร์รี่ เคน ยืนหน้าเป้า ออกตัวมาตอน 10 ตอนแรกเป็น “ไอ้ปืนใหญ่” ขึงเกมรุกบุก แต่ว่าจังหวะในที่สุด ยังไม่ผ่านแนวรับไก่ที่ยังช่วยเหลือกันก้าวหน้า

นาที 14 เป็นช่องทางยิงหนแรกของเกม กรานิต ชาก้า ตั้งป้อมซัดไกลนอกกรอบ หลังเรียกจุดลูกโทษ แต่ว่าบอลเหาะออกไปไกล อีก 2 ตอนต่อมา อาร์เซน่อล คงจะได้ประตูขึ้นนำ โอกาสนี้เป็น เอมิล สมิธ โรว์ ปั่นด้วยขวานอกกรอบบอลโค้งผ่านมือ อูโก้ โยริส ไปสุดแท้แต่ไปชนคานอย่างโชคร้าย ตอน 19 เป็นข่าวร้าย เมื่อ ซน ฮึง-มิน เล่นต่อไม่ไหวหลังมีลักษณะเจ็บที่แฮมสตริง ก่อนที่จะ มูรินโญ่ จะส่ง เอริก ลาเมล่า ลงมาเล่นแทน

หลังเรียกจุดลูกโทษ

เกมรุกของเจ้าของบ้านยังหวือหวา ตอน 26 สมิธ โรว์ ผ่านให้ อเลซ็องดร์ วิ่งมาอัดด้วยขวาบอลผ่านหน้าประตูไปอย่างน่าผิดหวัง แต่ว่า ช่วง 33 จังหวะแรกของ “ไก่เดือยทอง” ก็แปลงเป็นประตูขึ้นนำอาร์เซน่อล 1-0 โดยทันที

บอลจาก เบล ผ่านมาซ้ายให้ เรกีล่อน แปจังหวะเดียวเข้ากึ่งกลางให้ ลูคัส มูร่า ติดจังหวะเดียวให้ เอริก ลาเมล่า ขัดยิงด้วยซ้ายบอลลอดขา โธมัส ปาร์เตย์ พุ่งทิ่มเสาไกลอย่างเหนือชั้น เพนท์บอล

ช่วง 37 ปืนใหญ่คลาดโอกาสตีเสมอหลัง เอมิล สมิธ โรว์ พาบอลถึงเส้นหลังแล้วหักมาให้ ลากาแซตต์ วิ่งผ่านบอลมาถึง เซดริก โซอาเรส วิ่งมาซัดด้วยขวาบอลพุ่งไปชนเสาอย่างโชคร้าย แม้กระนั้นแล้ว นาที 44 กองทัพปืนใหญ่มาไล่ตีเสมอ 1-1 เสร็จ

บอลขึ้นทาง คีแรน เทียร์นี่ย์ ครอสมากมายลางประตูถึง มาร์ติน โอเดนการ์ด ยิงไปไถลขา โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ แปลงทางแทงมุมเข้าไปจำพวกที่ อูโก้ โยริส พุ่งปัดไม่ทัน เป็นประตูแรกในพรีเมียร์ลีก และก็ยิงได้สองนัดติดต่อกันข้างหลังพึ่งจะยิงได้ในเกมยูโรปาลีกเมื่อกึ่งกลางอาทิตย์ก่อนหน้าที่ผ่านมา

จบครึ่งแรก เสมอ 1-1 ช่วงหลังสลับตัวส่งลงไปเล่นแทน ที่มีความรู้สึกเจ็บ

นาที 56 เจ้าบ้านเกือบจะได้แซงขึ้นนำหลัง โอเดนการ์ด จ่ายให้ อเลซ็องดร์ กลับตัวซัดด้วยขวานอกกรอบ แม้กระนั้น บอลพุ่งไปเข้ามือ อูโก้ โยริส ช่วง 64 อาร์เซน่อล มาได้ลูกที่จุดลูกโทษหลัง ดาวินชอน ซานเชซ เข้าไปทิ่มใส่ อเลซ็องดร์ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดลูกโทษในทันที กับวีเออาร์การันตีเป็นจุดลูกโทษก่อนที่ ซัดเข้าไปไม่พลาดให้ ปืนใหญ่ แซงขึ้นนำ 2-1

หลังเรียกจุดลูกโทษ

ประมาณตอน 76 สเปอร์ส จะต้องเหลือเพียงแค่ 10 คนข้างหลัง เอริก ลาเมล่า ไปเจตนาใช้มือฟาดที่หน้า คีแรน เทียร์นี่ย์ จนกระทั่งไมเคิ่ล โอลิเวอร์แจกใบเหลืองลำดับที่สองเป็นใบแดงถูกไล่ออกจากสนาม

ประมาณตอน 83 แฮร์รี่ เคน พุ่งกระแทกจ่ายบอลเข้าก้นตาข่ายไปแล้ว แม้กระนั้นผู้ตัดสินเป่าเป็นล้ำหน้าไปก่อนทำให้ ชวดได้ประตูตีเสมออย่างโชคร้าย ดูบอลสด

ประมาณตอน 89 กลุ่มเยี่ยมชวดได้ประตูตีเจ๊าอีกหลัง แฮร์รี่ เคน ยิงฟรีคิกไปชนเสา ถึงแม้ ดาวินซอน ซานเชซ จะกระแทกซ้ำแม้กระนั้นยังไปติดบล็อค กาเบรียล มากัลเญส ช่วยเซฟไม่ให้ปืนจำเป็นต้องเสียประตู จบเกม อาร์เซน่อล กลับแซงเอาชนะ สเปอร์ส 2-1 เก็บสามแต้มสำคัญ

แม้กระนั้นยังอยู่ชั้น 10 ดังเดิมมี 41 แต้มเท่ากับ แอสตัน วิลล่า แม้กระนั้นลูกได้เสียด้อยกว่าสิงห์ผงาด ส่วน “ไก่เดือยทอง” ชวดช่องทางไล่จักจี้ท็อปโฟร์ รั้งชั้น 7 มี 45 แต้มเหมือนเดิม

อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : แบรนด์ เลโน่ – เซดริก โซอาเรส, กาเบรียล มากัลเญส, ดาวิด ลุยซ์, คีแรน เทียร์นี่ย์ – โธมัส ปาร์เตย์, กรานิต ชาก้า – บูคาโย่ ซาก้า (นิโกล่าส์ เปเป้ น.46), โอเดนการ์ด, เอมิล สมิธ โรว์ (วิลเลี่ยน น.77) – อเลซ็องดร์ ลากาแซตต์ (โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ น.88)

สเปอร์ส (4-2-3-1) : อูโก้ โยริส – แมตต์ โดเฮอร์ตี้, ดาวินซอน ซานเชซ, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, เซร์คิโอ เรกีล่อน – ปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก, ต็องกี เอ็นดอมเบเล่ (เดเล่ อัลลี่ น.62) – แกเรธ เบล (มูสซ่า ซิสโซโก้ น.57), ลูคัส มูร่า, ซน ฮึง-มิน (เอริก ลาเมล่า น.19) – แฮร์รี่ เคน