ผีปะทะค้อน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีภารกิจจะต้องเปิดบ้านต่อกรกลุ่มฟอร์มรุนแรงอย่าง เวสต์แฮมยูไนเต็ด 

ผีปะทะค้อน ถึงแม้กลุ่มของ โอเล่ กุนท้องนาร์ โซลชา จะทำเซอร์ไพรส์ด้วยการบุกเอาชนะผู้นำฝูง แมนฯ ซิตี้ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วแม้กระนั้นพวกเขาดันทำผลงานได้ไม่ดีนักในเกม ยูโรปา ลีก

กึ่งกลางอาทิตย์ก่อนหน้านี้ เพราะฉะนั้นคืนวันนี้คงจะจำต้องปลอบขวัญพลังใจกลับมาแม้กระนั้นการพบกับกองทัพ “ขุนค้อน” ณ​ ขณะนี้ไม่ได้ง่าย ก่อนเกมพวกเรามาเจาะลึกข้อความสำคัญที่น่าดึงดูดกัน

ตัวเจ็บเยอะ-อาหมัดลุ้นเปิดฉากลีก แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังพบกับปัญหาผู้เล่นเจ็บหลายรายโดยยิ่งไปกว่านั้นบรรดาแนวรุกที่เป็นตัวความคาดหวังในดินแดนหน้า อาทิตย์นี้กลุ่มใช้งานผู้เล่นมิได้ถึง 8 ค

ยกตัวอย่างเช่น เอดินสัน คาวานี่, ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค, ฆวน มาต้า, มาร์คัส แรชฟอร์ด, ปอล ป็อกบา, ฟิล โจนส์ แล้วก็ผู้ที่พึ่งจะเจ็บในเกมปัจจุบันอย่าง อ็องโตนี่ มาร์กสิยาล ส่วนในรายของ ดาบิด เด เคอา ยังอยู่ในตอนกักบริเวณ ศึกแย่งชิงนักเตะ

ถ้าแรชฟอร์ด รวมทั้ง มาร์กสิยาล ไม่ผ่านความฟิตก่อนเกม ช่องทางจะตกมาที่ อาหมัด ดิยัลโล่ ปีกจอมพลิ้วที่ย้ายมาร่วมทีมในตอนมกราคมและก็ยังมิได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกเลยสักนาทีเดียว

เจ้าหนูวัย 18 ปีได้สัมผัสเกม ยูโรปา ลีก มา 3 นัดหมายซึ่งในเกมกึ่งกลางอาทิตย์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเขาลงมาโหม่งทำแต้มแรกในสีเสื้อ “ปีศาจร้ายแดง” ได้เสร็จ นับเป็นการเริ่มในกองทัพ แมนฯ ยูไนเต็ด

ผีปะทะค้อน กับกลุ่มชุดยู-23 เขาลงเล่นเพียงแค่ 2 นัดหมายก็มีส่วนร่วมกับประตูถึง 6 ลูก (3 ประตู 3 แอสซิสต์) มั่นใจว่าเจ้าหนูคนนี้คงจะพร้อมสำหรับในการเล่นกลุ่มชุดใหญ่แล้ว

แฟนบอลก็อาจจะต้องการจะมองเห็น ดิยัลโล่ ลงเล่น 90 นาทีเต็มรวมทั้งคืนวันนี้จะเป็นจังหวะดีที่ โซลชา จะส่งเขาลงปล่อยของในพรีเมียร์ลีกครั้งแรก

ดีนควรมีสมาธิ เดี๋ยวนี้ตรงเวลาที่ ดีน เฮนเดอร์สัน จะได้โกยคะแนนจาก โอเล่ กุนที่นาร์ โซลชา ข้างหลัง ดาบิด เด เคอา จำเป็นที่จะต้องเดินทางไปที่ ประเทศสเปน เพื่อดูแลเมียที่ออกลูกคนแรก

ผีปะทะค้อน ซึ่งในเกมกับ แมนฯ ซิตี้ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เจ้าตัวได้รับคำกล่าวชมเชยอย่างล้นหลาม อีกทั้งจังหวะเซฟแล้วก็การออกมาตัดบอลลูกในอากาศที่แฟนผีผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยคิดว่าดูดีกว่าทาง เด เคอา เสียอีก

ผีปะทะค้อน

เขาลงเล่นมาทั้งหมดทั้งปวง 16 นัดหมายในทุกรายการพร้อมเก็บคลีนชีทได้ถึง 9 นัดหมาย

ผีปะทะค้อน แต่เกมเมื่อกึ่งกลางอาทิตย์กับ เอซี มิลาน ใน ยูโรปา ลีก มีเรารูผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยตั้งปัญหาว่า เฮนเดอร์สัน ควรเซฟลูกโหม่งขอ ซิมง เคียร์ ได้ดีมากยิ่งกว่านี้หรือเปล่าซึ่งมันก่อให้เกิดผลกระทบหายถึงอเวย์โกล์ของฝั่งไม่ลานอย่างยิ่งจริงๆ

อย่าง พอล สวัวลส์ คิดว่า เฮนเดอร์สัน ควรจะปัดได้น่าฟังบอลไม่ห่างและไม่สูงจากตัวมากเท่าไรนัก หากเป็น เด เคอา ที่ปฏิกิริยาดีมากยิ่งกว่านี้ก็บางครั้งอาจจะปัดบอลออกไปแล้ว

แน่ๆว่าการลงเฝ้าเสาให้ “ผีแดง” มันมากับแรงกดดัน เฮนเดอร์สัน จึงควรพบกับเสียงวิจารณ์ถัดไปแบบไม่รู้จักจบสิ้น ถือได้ว่าเป็นการทดลองจิตใจของเขาว่าจะเข้มแข็งพอเพียงสำหรับยืนเป็นมือชั้นยอดให้กลุ่มได้หรือเปล่า

ก่อนเกม โซลชา การันตีว่า เด เคอา กลับมาที่แมนเชสเตอร์สุดแท้แต่อยู่ในตอนกักบริเวณ พูดได้ว่าเป็นการบีบคั้น เฮนเดอร์สัน ในทางอ้อม เขาอาจจำเป็นต้องกลับมาโชว์ฟอร์มเก่งให้ได้ในคืนี้

จอมยิงเซ็ตพีซปะทะจอมเสียเซ็ตพีซ เซ็ตพีซเปลี่ยนเป็นของแสลงของแฟนผีเสียแล้วเนื่องจากพวกเขาเสียประตูจากลูกตั้งเตะจำนวนมากแล้วก็มีส่วนทำให้แต้มร่วงมาหลายนัดหมาย

หากนับเฉพาะฤดูนี้พวกเขาเป็นกลุ่มที่เสียประตูจากเซ็ตพีซสูงที่สุดเป็นชั้น 3 ของพรีเมียร์ลีก (10 ประตู) แทบจะพอๆกับบ๊วยของตาราง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่เสีย 11 ประตูอยู่แล้ว

ผีปะทะค้อน อย่างในเกม ยูโรปา ลีก ปัจจุบันพวกเขาเสียประตูเพราะว่าลูกเตะมุมของ เอซี มิลาน ในช่วงต่อเวลาพิเศษเจ็บเสียกายถึงอเวย์โกล์ หรือถ้าเกิดย้อนกลับไปในเกมกับ เอฟเวอร์ตัน

พวกเขาก็เสียประตูทดเวลาเจ็บเหมือนกันแต่ว่ามาจากลูกฟรีคิกกึ่งกลางสนาม และก็ในคืนวันนี้ “ปีศาจร้ายแดง” ก็จะต้องพบกับกลุ่มที่เก่งลูกเซ็ตพีซเยอะที่สุด​อย่าง เวสต์แฮม เพนท์บอล

เดวิด มอยส์ เป็นผู้ฝึกสอนที่ชำนาญเรื่องเซ็ตพีซมาตั้งแต่ตอนคุม เอฟเวอร์ตัน ซึ่งในช่วงเวลานั้นเขามี มารูยาน เฟลไลนี่ เป็นตัวกำราบลูกในอากาศ ส่วนในเวลานี้ในกองทัพ “ขุนค้อน”

เขามีผู้เล่นที่เล่นลูกในอากาศก้าวหน้าอย่าง โทมัส ซูเช็ค (ทำประตูจากเซ็ตพีซ 4 ลูก) แล้วก็ เคร็ก ดอว์สัน (ทำประตูจากเซ็ตพีซ 3 ลูก) ทำให้ เวสต์แฮม ของ มอยส์ มีสถิติทำประตูจากเซ็ตพีซสูงที่สุดในลีกฤดูนี้ (14 ประตู)

ยิ่งคืนวันนี้พวกเขาขาด เจสซี่ ลินการ์ด เนื่องมาจากติดข้อตกลงยืมตัวทำให้ มอยส์ จำเป็นต้องมาย้ำลูกตั้งเตะมากยิ่งกว่าเดิม “ผีแดง” อาจต้องระมัดระวังตัวให้ได้ไม่เช่นนั้นมีสิทธิ์เสียประตูรูปแบบนี้อีกแน่

ภารกิจลุ้นท็อปโฟร์ของค้อน เดวิด มอยส์ และก็ผู้ร่วมทีม เหมาะได้รับเสียงชื่นชอบข้างหลังพาทีมบินสูงมาถึงขนาดได้ลุ้นพื้นที่บอลยุโรปในช่วงฤดูกาลนี้ พวกเขามีทีเด็ดทั้งยังจากแนวรุกที่อดทนอย่าง มิคาอิล อันโตนิโอ (7 ประตู 3 แอสซิสต์)

มีมิดฟิลด์จอมพังทลายตาข่ายอย่าง โทมัส ซูเซ็ค (8 ประตู) รวมทั้งปราการหลังจอมทำประตูอย่าง เคร็ก ดอว์สัน (3 ประตู) เสริมกองทัพด้วย เจสซี่ ลินการ์ด ที่ฟอร์มฮอตสอยตาข่ายไปแล้ว 4 ประตูกับ 2 แอสซิสต์จากการลงเล่น 6 นัดหมายในลีก

ขุนค้อนอยู่ชั้น 5 ตามหลัง เชลซี ชั้น 4 อยู่เพียงแต่ 3 คะแนนเพียงแค่นั้นข้างหลัง “ราชสีห์บล์” สะดุดเสมอเมื่อวานนี้ แถม เวสต์แฮม ยังแข่งขันน้อยกว่าถึง 2 นัดหมายด้วย ฉะนั้นจังหวะแซงขึ้นท็อปโฟร์อยู่ในกำมือพวกเขาแล้ว แต่ทว่า 6 นัดหมายถัดจากนี้นับว่าเป็นบททดลองสำคัญว่ากลุ่มของ มอยส์ จะยืนระยะลุ้นโควต้าบอลยุโรปได้จนถึงด้านหลังฤดูไหม

เวสต์แฮม จำเป็นที่จะต้องเจอกับโปรแกรมหนักโดยพบกลุ่มใหญ่ถึง 4 จาก 6 นัดหมายถัดจากนี้ เริ่มด้วยการเยี่ยมเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด คืนวันนี้ ต่อด้วยการเปิดรังปะทะ อาร์เซน่อล ในอาทิตย์หน้า

ในตอนที่นัดหมายต่อมาการบุกเจอ เวสต์แฮม ก็ไม่ใช่งานง่ายแถมจำเป็นต้องเปิดบ้านเจอ เลสเตอร์ สิตี้ อีกด้วย ส่วนอีกสองนัดหมายในเมษายนเป็นการบุกเยี่ยม นิวค้างสเซิ่ล

ผีปะทะค้อน และก็จบท้ายด้วยการพบกับ เชลซี นับว่าเป็นงานยากมากมายๆสำหรับ “ขุนค้อน” แต่ว่าหากทำผลงานสวยงามก็สมควรแล้วที่กำลังจะได้ไปฝ่าบอลยุโรปฤดูหน้า ดูบอลสด

มอยส์ลุ้นเปิดซิงโอลด์แทรฟฟอร์ด จบท้ายกันด้วยสถิติที่น่าดึงดูด โดยคืนวันนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้โอกาสที่จะชนะเวสต์แฮมไป-กลับในเกมลีกเป็นครั้งแรกตั้งแต่แมื่อฤดู 2013-2014

ซึ่งฤดูนั้น เดวิด มอยส์ จับบังเหียน “ผีแดง” ด้วย ยิ่งกว่านั้น “ขุนค้อน” ยังไม่สามารถที่จะบุกชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้สักหนึ่งครั้งใน 12 เกมลีกหลังสุด (เสมอ 3 แพ้ 9) ซึ่งความมีชัยหนสุดท้ายของ เวสต์แฮมที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เกิดขึ้นฤดู 2006-07 ด้วยสกอร์ 1-0

ระหว่างที่สถิติของบอส “มอยส์” นั้น เขายังไม่เคยบุกชนะกลุ่ม “เร้ด เดวิลส์” ในพรีเมียร์ลีกได้เลยสักหนึ่งครั้ง โดยเสมอ 4 แล้วก็แพ้ถึง 9 จากการเยี่ยมเยือน โอลด์ แทรฟฟอร์ด 13 ครั้งกับกลุ่ม เอฟเวอร์ตัน, ซันเดอร์แลนด์ รวมทั้งเวสต์แฮม

อย่างไรก็ดีฤดูนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้คาบ้านต่อกลุ่มจากลอนดอนมา 3 กลุ่มแล้วอย่างเช่น คริสตัล พาเลซ, สเปอร์ส แล้วก็ อาร์เซน่อล หนสุดท้ายที่ “ผีแดง” แพ้เกมลีกคาบ้านต่อกลุ่มจากลอนดอนถึง 4 กลุ่ม จะต้องย้อนกลับไปในช่วงฤดูกาล 1986-87 อย่างยิ่งจริงๆ (ชาร์ลตัน, เชลซี, เวสต์แฮมแล้วก็ วิลเบิลดัน)