ประสบการณ์สูง หลังแพ้คนใดมา 3 นัดหมายติด ด้วยการเปิด สแตมฟอร์ด บริดจ์ กระหน่ำ มอร์แคมบ์ กลุ่มจากลีกทู สบาย 4-0

ประสบการณ์สูง โดยดาหน้ายิงไม่ซ้ำหน้า ผ่านเข้ารอบ 4 ฉลุย ในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 3ศึกบอล เอฟเอ คัพ รอบ 3 เป็นเกม สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เปิดบ้านต้อนรับ มอร์แคมบ์ กลุ่มจากลีก ทู โดย แฟรงค์ แลมพาร์ด ส่ง ฮาคิม สิเย็ค, คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย รวมทั้ง ตำหนิโม แวร์เนอร์ พอดีจริงประสานงานแนวรุก

ส่วน มอร์แคมบ์ กลุ่มจากลีก ทู ผลงานไม่เลว ผ่านเข้ารอบนี้ ข้างหลังเอาชนะ โซลิฮัลล์ มัวร์ 4-2 ข้างหลังยืดเวลา ส่วนในเกมลีกพึ่งจะเปิดบ้านซัด กริมสบี้ 3-1 ทำให้พวกเขาชนะมา 4 เกมติดแล้ว

เชลซี : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า, เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, คูร์ท ซูม่า (ฟิกาโย่ โทโมริ น.80) , เอแมร์ซอน ปัลมิเอรี่, เมสัน เม้าน์ท, บิลลี่ กิลมัวร์,

ไค ฮาแวร์ทซ์, ฮาคิม ซิเย็ค (คริสเตียน พูลิซิช น.68), คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย (ฟาอุสติโน่ อันโยริน น.80), ติโม แวร์เนอร์ (โอลิวิเยร์ ชิรูด์ น.68)

มอร์แคมบ์ : มาร์ค ฮัลสเตด, ไรอัน คูนี่ย์ (เคลวิน เมลเลอร์ น.61), นาธาเนียล ไนท์-เพอร์ซิวาล, แฮร์รี่ เดวิส, สตีเว่น เฮนดรี้ (เลียม กิ๊บสัน น.61), แอรอน วิลดิก, ยันน์ ซงโก้,

จอร์แดน สลูว์ (จอห์น โอซุลลิแวน น.61), อดัม ฟิลลิปส์, การ์ลอส เมนเดส (แบรดลี่ย์ ไลออนส์ น.74), โคล สต็อคตัน (เลียม แมคอาลินเดน น.86)

เริ่มเกมครึ่งแรก นาที 3 เชลซี ได้ลุ้นก่อนจากลูกโยนรอบๆขอบเส้นฝั่งขวาโดย ฮาคิม สิเย็ค มาในกรอบจุดโทษให้ ว่ากล่าวโม แวร์เนอร์ ได้ขึ้นโหม่งจ่อๆหน้าประตูระยะ 6 หลา แม้กระนั้นบอลโดนไม่เต็มหัวหลุดเสาซ้ายออกไปเพียงนิดหน่อย

ในนาที12 เชลซีเกือบจะเสียท่า เมื่อ อดัม ฟิลลิปส์ ลำแข้ง มอร์แคมบ์ เลี้ยงบอลมาบริเวณขอบเส้นฝั่งขวาแล้วกระทำการเปิดบอลพุ่งเรียดเข้ากึ่งกลางแต่ว่าบอลติดไซด์ก้อยเปลี่ยนแปลงทางไปที่ประตู ทำเอา เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า จำต้องรีบกลับเนื้อกลับตัวมารับบอลไว้ได้อย่างทุลักทุเล สเปอร์ได้งานง่าย

มาในนาที18 กองทัพสิงโตน้ำเงินครามทำแต้มขึ้นนำ จากจังหวะ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ส่งบอลเข้ากึ่งกลางให้ เมสัน เม้าน์ท ตะบันไกลด้วยขวาระยะไกลนอกกรอบ บอลพุ่งแรงและก็เรียดผ่านลำแข้งกลุ่มเยี่ยมไปทิ่มตูดตาข่ายอย่างสุดงาม เชลซีขึ้นนำ 1-0

นาทีที่44 เจ้าของบ้านได้ประตูที่ 2 จากการติดต่อประสานงานของสามนักฟุตบอลใหม่ที่พึ่งจะซื้อมาในฤดูกาลนี้ บอลถูกโยนจากขอบเส้นฝั่งขวาโดย สิเย็ค มาทางเสาสองให้ ไค ฮาแวร์ทซ์

ประสบการณ์สูง

กระโจนโหม่งย้อนกลับมาเข้ากึ่งกลางให้กับทาง แวร์เนอร์ วิ่งมาเข้าฮอสยิงจ่อๆหน้าทางเข้าไปท้ายที่สุด

เบิกสกอร์แรกในเอฟเอคัพของ หัวหอกเยอรมันในสีเสื้อเชลซี ด้วย พร้อมบวกประตูให้สมาชิก แฟร้งค์ แลมพาร์ด นำเพิ่ม 2-0เป็นเชลซีที่ทำเกมรุกได้มากกว่าตามคาด

ต่อไปไม่นาน ผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบครึ่งแรก เชลซีนำอยู่ 2-0เริ่มเกมช่วงหลัง มาในนาที49 เชลซีบวกเพิ่มลูกที่ 3 จากจังหวะตักบอลไม่เห็นหัวแนวรับของ สิเย็ค เพนท์บอล

น้ำหนักบอลเหมาะเหม็งที่จะให้ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย วิ่งหลุดกับล้ำหน้ามาเล่นบอลได้อย่างพอดี ก่อนที่จะเจ้าตัวจะดูดบอลลงด้วยซ้ายแล้วยิงด้วยขวาผ่านมือผู้เฝ้าประตูเข้าไปอย่างดีเยี่ยม เชลซีนำห่าง 3-0

นาท 54 ฮาแวร์ทซ์ รับลูกส่งจาก แวร์เนอร์ มาอีกครั้ง แล้วกระทำยิงด้วยขวารอบๆกึ่งกลางกรอบจุดโทษ แต่ว่าแนวทางไม่ตรงกรอบหลุดเสาขวาออกไป สกอร์ยังคง 3-0

ในนาที71 เชลซีแทบทำแต้มที่ 4 ได้ จากจังหวะ ผ่านบอลจากฝั่งขวาโดย เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า เข้ากึ่งกลางให้ ฮาแวร์ทซ์ ซัดจ่อๆตรงตัวไปติดเซฟผู้เฝ้าประตู

บอลกระเด้งออกมาเข้าทาง คริสเตียน พูลิสิช ที่ถูกส่งตัวลงมาในช่วงหลัง วิ่งมายิงซ้ำจ่อๆด้วยขวาไปติดเซฟอีกที ตอนนี้นายทวารกลุ่มเยี่ยมรับบอลไว้ได้ ทำให้เจ้าของบ้านหมดลุ้นในจังหวะนี้ท้ายที่สุด

มาในนาทีที่ 85 เจ้าของบ้านทำแต้มหนีเพิ่ม อัซปิลิกวยต้า ครอสบอลจากขอบเส้นฝั่งขวาเข้าไปกึ่งกลางกรอบจุดโทษ เป็น ฮาแวร์ทซ์ วิ่งมาเทคตัวขึ้นโหม่งเต็มๆตัวเข้าไปตุงตาข่าย เชลซีนำเพิ่ม 4-0 ดูบอลสด

ไม่มีประตูเพิ่มอีกจากนั้น ผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลาการประลอง จบเกม เชลซี ได้ไปต่อ เปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ กระหน่ำ มอร์แคมบ์ 4-0 พร้อมทะยานเข้าไปเล่นเอฟเอ คัพ รอบ 4 ถัดไป