กำลังตั้งเป้า ชุควูเซผู้มีบุญพิเศษกับบาเยิร์น กล่าวว่า “ผมจะไม่ให้ลิเวอร์พูลแพ้แน่”

กำลังตั้งเป้า ซามูเอล ชุคเวเซ่ กองหน้าบียาร์เรอัล ไนจีเรีย มั่นใจว่าจะคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศได้ บียาร์เรอัลลงเล่นกับยูเวนตุสในรอบที่ 16 และทำให้ผิดหวังอย่างมากในการเอาชนะบาเยิร์นในรอบก่อนรองชนะเลิศ ในเลกที่ 1 ของรอบรองชนะเลิศ

ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 27 นี้ ชุควูเซยิงประตูนำทีมไปสู่รอบรองชนะเลิศในเลกที่สองกับบาเยิร์น เนื่องจากลิเวอร์พูลเป็นผู้ชนะเมื่อให้สัมภาษณ์ของอังกฤษ ให้ความเห็นว่ามีความกดดัน ทีมกระตือรือร้นที่จะใช้ประโยชน์จากมันและนำอารมณ์เสียกลับมาอีกครั้ง

“เรารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับลิเวอร์พูล มันจะเป็นแรงกดดันเพราะคู่ต่อสู้ของเราคาดว่าจะชนะ เรามีทีมและผู้จัดการทีมมากพอที่จะแข่งขันกับทีมใดก็ได้ในโลก ดูจากการเล่นของลิเวอร์พูลแล้ว บางคนก็คาดการณ์ไว้แล้ว (ลิเวอร์พูลจะชนะ) แต่นั่นเป็นเรื่องปกติในวงการฟุตบอล แต่เรายังมีงานต้องทำและเราจะไม่ให้ลิเวอร์พูลแพ้ มันโอเคไหมที่จะตั้งเป้าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดที่นั่น นั่นคือสิ่งที่เราต้องการ”

ชุควูเซมองย้อนกลับไปที่ประตูของเขากับบาเยิร์นและรู้สึกยินดีที่มันเป็นงานใหญ่ที่นำบียาร์เรอัลไปสู่รอบรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก ตั้งแต่ฤดูกาล 2548-49 “(เกมกับบาเยิร์น) ผลัดกันในครึ่งหลังทำแต้มชนะที่ผมจะไม่มีวันลืม บอกตามตรงว่าในตอนแรกมันหมายถึงอะไรสำหรับนักเตะ

สโมสร แฟนบอล และเมือง ผมไม่ได้ทำ เข้าใจ ทุกอย่างในพริบตา เพื่อนร่วมทีมของฉันเอาแต่ตะโกนว่า ‘แซม!’ แต่ตอนนั้นฉันรับมือไม่ไหว บอกตามตรง ฉันไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ แฟน ๆ เห็นทั้งน้ำตาและดีใจ ฉัน เข้าใจถึงผลกระทบของเป้าหมายนั้นอย่างเต็มที่

ฉันอยากจะเขียนบทที่สำคัญกว่านี้ในอาชีพการงานของฉันในบียาร์เรอัล ฉันยังมีเกมให้เล่นและความรุ่งโรจน์ส่วนตัวของฉันไม่ใช่เป้าหมายของฉัน บียาร์เรอัลเป็นเหมือนครอบครัวสำหรับฉัน เมื่อมีคนพบศักยภาพของพวกเขา

ฉันต้องการให้พวกเขาเติบโตมากกว่านี้ ผู้กำกับทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมสำหรับฉัน ทั้งหมดที่ฉันต้องทำคือทำประตู การจบสกอร์คือการปรับปรุงเพียงอย่างเดียวที่เหลือสำหรับ ฉัน. ”

กำลังตั้งเป้า “ความฝัน” ที่ไม่ตื่นขึ้นของสโมสรในเมืองของเรา

บียาร์เรอัลได้รับการสนับสนุนจากความรักที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปยังวิหารแอนฟิลด์ ความรักสิบหกปีหลังจากการยิงจุดโทษของฮวน โรมาน ริเกลเม ความล้มเหลวในการยิงจุดโทษที่โด่งดังที่สุดของสโมสร ฟุตบอลได้ให้โอกาสแก่บียาร์เรอัลอีกครั้ง ในเมืองบียาร์เรอัล

กองเชียร์ของสโมสร ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ “ซับมาริโน อามาริลโล (เรือดำน้ำสีเหลือง)” หวนระลึกถึงวันอันแสนวิเศษเหล่านั้นอีกครั้ง สโมสรของเราได้รับการยกย่องในวงการฟุตบอลและเมืองที่เราอาศัยอยู่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก หากการแข่งขันรอบรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกกับอาร์เซนอล

และก่อนสิ้นสุดได้รับการตัดสินและเข้าสู่ช่วงต่อเวลา จะต้องผ่านเข้าชิงชนะเลิศในปารีส บียาร์เรอัลส่วนใหญ่ถือตั๋วเข้าชมแชมเปียนส์รอบชิงชนะเลิศก่อนเลกที่สองกับอาร์เซนอล (05-06 รอบรองชนะเลิศฤดูกาล: 0-0) เป็นไปไม่ได้เลยสำหรับพวกเขาที่จะได้เห็นทีมบนเวทีรอบชิงชนะเลิศ

ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงภาคภูมิใจในศาสดาและซื้อตั๋วล่วงหน้า ท้ายที่สุดแล้ว รอบชิงชนะเลิศจัดขึ้นที่บาร์เซโลนาและอาร์เซนอล แต่ผู้สนับสนุนหลายคนยังคงหวงแหนตั๋วลวงตานั้น มันยากที่จะคิดว่าโอกาสที่จะได้เห็นบียาร์เรอัลจะกลับมาอีกครั้ง

ในรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ 16 ปีนั้นยาวนานและสั้นเกินไป ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาแต่ละคนอาศัยอยู่อย่างไร อย่างไรก็ตาม เมื่อมองย้อนกลับไป มีหลายเหตุการณ์ที่มิอาจลืมเลือนได้ ฉันเปลี่ยนรถ บ้านที่ฉันอาศัยอยู่เปลี่ยนไป เด็กเกิดและกลายเป็นพ่อ (แม่)

การเจ็บป่วยที่รุนแรงเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวเรา ฉันสูญเสียคนที่รักของฉัน … มนุษย์และสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเนื่องจากปัจจัยภายในและภายนอก อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งที่จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เป็นสโมสรฟุตบอลที่มอบความรัก คู่ชีวิตและรสนิยมทางดนตรีสามารถเปลี่ยนแปลงได้

แต่สโมสรอันเป็นที่รักของฉันไม่เคยเปลี่ยนแปลง บางทีความคลั่งไคล้ซึ่งยินดีกับความสำเร็จของสโมสรของเขาอย่างบ้าคลั่ง อาจเย็นลงตามกาลเวลา ยังคงคำตอบสำหรับคำถาม “สโมสรโปรดของคุณคืออะไร” ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ อย่างน้อยนั่นเป็นกรณีของชาวบียาร์เรอัล

ตลอด 16 ปีที่ผ่านมา พวกเขายังคงรัก เชื่อมั่น และเพลิดเพลินกับความสุขครั้งใหม่ในคลับ เมื่อเขาเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลที่แล้วเพื่อคว้าแชมป์ยูโรป้า ลีก (1-1: การยิงจุดโทษ 11-10) และคว้าแชมป์แรกของสโมสร ดูเหมือนไม่มีอะไรมากไปกว่านี้

โชคดีที่ความเชื่อนั้นถูกปฏิเสธทันที สำหรับคนรักฟุตบอล การใช้ชีวิตในบียาร์เรอัลนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าสิทธิพิเศษในตอนนี้ ตอนนี้ ฉันไม่สามารถพูดถึงสิ่งอื่นใดนอกจากความฝันของสโมสรในเมืองของเราที่จะได้แชมป์เปี้ยน ในโรงอาหาร ผู้เฒ่าทะเลาะกันว่าอูไน เอเมรีควรเผชิญหน้ากับลิเวอร์พูลอย่างไร

และเด็ก ๆ สวมเครื่องแบบสีเหลืองไปโรงเรียน เมื่อพวกเขาเงยหน้าขึ้นอย่างกะทันหัน ธงของสโมสรก็โบกสะบัดบนระเบียงของบ้านแต่ละหลัง วันที่ 26 ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ไปลิเวอร์พูล แต่หนึ่งในครอบครัวและเพื่อนของผมมักจะกรี๊ดในแอนฟิลด์อยู่เสมอ ความเชื่อ กีฬา เพนท์บอล

ฉันเป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่ได้เห็นการแข่งขันในแอนฟิลด์เพราะงานของฉัน เราจะรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นทันทีผ่านวิทยุ เช่นเมื่อเราเอาชนะยูเวนตุสในตูรินและบาเยิร์นในมิวนิก ฉันขอสารภาพตรงนี้ แต่เมื่อบียาร์เรอัลประสบความสำเร็จในสองเกมนี้ ฉันไม่ได้ปฏิบัติตามบรรทัดฐานของการสื่อสารมวลชน

ฉันจะบอกคุณเพียงข้อเท็จจริงเท่านั้น … มันอยู่ไกลจากงานดังกล่าวและอาจกล่าวได้ว่าฉันถูกตัดสิทธิ์เป็นมืออาชีพ ภาพที่ปรากฏต่อหน้าฉันปลดปล่อยอารมณ์และความหลงใหลอย่างไร้ขีดจำกัด ทำลายฉันในฐานะนักข่าว เขาใช้คำพูดและการกระทำเดียวกันกับนักข่าวที่ถูกดูหมิ่น

และทำธุรกิจด้วยการเรียกตัวเองว่าเป็นแฟนของสโมสรแห่งหนึ่ง บางครั้งหัวใจก็อยากพูดออกมามากกว่าหัว ในฐานะที่เป็นลูกผู้ชายของบียาร์เรอัล กับบียาร์เรอัล ฉันก็เลยกรีดร้องออกมาอย่างช่วยไม่ได้ วันอังคารผมจะไปลิเวอร์พูลอีกครั้ง นี่เป็นครั้งที่สองในชีวิตของฉันที่ได้เห็นการแข่งขันในแอนฟิลด์

และเช่นเดียวกับฉัน กองเชียร์สีเหลือง 3,000 คนรีบไปที่สนาม การรวมตัวของ “หงส์แดง” ที่สนามนี้มี 53,000 คน ซึ่งมากกว่าจำนวนประชากรของบียาร์เรอัลที่ 51,000 คน เราไปเยี่ยมชมวัดแห่งฟุตบอลเป็นครั้งแรกเมื่อหกฤดูกาลที่แล้วในรอบรองชนะเลิศของยูโรปาลีก

เมื่อลิเวอร์พูลขับบียาร์เรอัลออกจากเกม (15-16 ฤดูกาล: สองเผ่าพันธุ์รวม 1-3) บรรยากาศภายในงานน่ากลัวมาก และเราแพ้ตั้งแต่ร้องเพลง “คุณจะไม่มีวันเดินเดียวดาย” แต่เราเชื่อว่าครั้งนี้ควรจะแตกต่างออกไป คราวนี้เขาคว้าแชมป์แรกกับยูไนเต็ดและนำชัยชนะกลับมาจากตูรินและมิวนิก

นำโดย อูไนเอเมรี่ผู้ชนะ เราฝันอีกครั้งว่าจะได้อยู่บนเวทีของแชมเปี้ยนส์นัดชิงชนะเลิศ ในความฝัน เมื่อมองย้อนกลับไป เราอาจเคยอยู่ในความฝันตลอดเวลา บียาร์เรอัลที่ผมดูมาตั้งแต่เล่นกับคู่แข่งในท้องถิ่นในลีกภูมิภาค ไม่เคยปลุกเราให้ตื่นจากความฝันและล่ามโซ่เราไว้

ด้วยความบังเอิญที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ นัดที่จะมาถึงเป็นแมทช์การแก้แค้นกับลิเวอร์พูลที่แพ้เมื่อหกปีก่อน และแมตช์สุดท้ายของแชมเปี้ยนส์ลีกกับทีมอังกฤษ (อาร์เซนอล) นอกจากนี้สถานที่สุดท้ายที่เราสมควรได้ไปถึงคือปารีส เช่นเดียวกับฤดูกาลนี้

ฉันรู้. ห่วงโซ่โดยบังเอิญนั้นไม่มีประโยชน์ ทว่าความหลงใหล อารมณ์ หรือแม้แต่วัยเด็กของเรากลับทำให้ความคาดหวังนั้นสูงขึ้น เชื่อว่าการเหยียบบนทางม้าลายสีขาวเท่านั้นจะทำให้คุณโชคดี มาสารภาพอีกสิ่งหนึ่งที่นี่ เมื่อ 16 ปีที่แล้ว ผมเป็นคนซื้อตั๋วเข้ารอบชิงชนะเลิศล่วงหน้า

คราวนี้ฉันอยากไปปารีสอย่างแน่นอน สำหรับฉัน เมืองนั้นเป็นเมืองที่สวยงามและรอคอยมายาวนานที่สุดในโลก แน่นอนว่าเมืองในชนบทของบียาร์เรอัลไม่สามารถเป็นเมืองที่สวยที่สุดในโลกเมื่อเทียบกันแล้ว แต่ถ้าคุณสามารถไปปารีสได้ ดูเหมือนว่าคุณจะภูมิใจกับมัน เราดูถูกโลกจากจุดสูงสุดผ่านฟุตบอล

นัดสุดท้ายนัดแรกของบียาร์เรอัลกับลิเวอร์พูล “เราต้องเล่นให้สมบูรณ์แบบ”

โค้ชบียาร์เรอัล อูไน เอเมรี่ (อายุ 50 ปี) กระชับมิตรในวันที่ 26 โดยกล่าวว่า “เราต้องเล่นให้สมบูรณ์แบบ” สำหรับเกมรอบรองชนะเลิศนัดแรกกับลิเวอร์พูล (อันดับที่ 27) ในยุโรปแชมเปี้ยนส์ลีก โค้ชเข้าร่วมงานแถลงข่าวในวันก่อนการแข่งขันนัดแรกเพื่อผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศยูโรเปียนแชมเปี้ยนส์ลีก

ครั้งแรกของสโมสร “มันเป็นลิเวอร์พูลที่ดีที่สุดที่ผมรู้จักลิเวอร์พูล แชมป์ยูโรเปี้ยนแชมเปี้ยนส์ลีก ที่มาดริด คล้ายกับทีมปัจจุบัน ดังนั้น เราจำเป็นต้องเล่นให้สมบูรณ์แบบเพื่อเอาชนะพวกเขา” 18 มันซ้อนทับกับเกมที่เอาชนะท็อตแน่ม 2-0 ในรอบสุดท้ายของฤดูกาล -19

ในส่วนของผู้บาดเจ็บนั้น “เจเรมี ปิโน จะไม่มาเพราะกล้ามโตมาหลายวันแล้ว เมื่อวานไปร่วมซ้อมแต่ไม่สามารถมีส่วนร่วมได้ เจอราร์ด (โมเรโน่) ฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องและได้จังหวะการเล่นกลับคืนมา ยังเร็วเกินไปที่จะทำให้มันอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดในวันพรุ่งนี้

ในขณะเดียวกัน คอเครนฝึกซ้อมตามปกติแล้วเจเรมี, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ และเจอราร์ด ได้รับบาดเจ็บ แต่ผู้เล่นคนอื่นจะสบายดี” บียาร์เรอัลจะพบกับผู้ชนะของเรอัลมาดริด และแมนเชสเตอร์ซิตี้ ในนัดสุดท้ายที่ปารีสในวันที่ 28 พฤษภาคม หากพวกเขาชนะรอบรองชนะเลิศที่บ้านในวันที่ 3 พฤษภาคม หลังจากเลกแรกจะเสร็จสิ้น (ผู้สื่อข่าวโทโมยูกิ ทากาฮาชิ) https://www.judodairago.com/